รำลึก "วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์" ทำไมถึงช่วยคนจน?
รำลึก "วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์" ทำไมถึงช่วยคนจน?
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2550 18:59 น.
วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ นักสู้เพื่อคนจน
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2550 เวลาประมาณ 13.00น. วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน วัย 52 ปี เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี บนเส้นทางนักต่อสู้เพื่อคนยากจนที่ยาวนาน เธอได้ถ่ายทอดเหตุผลและแรงบันดาลใจ “ทำไมถึงช่วยคนจน?” ในงานปาฐกถามูลนิธิโกมลคีมทอง ประจำปี 2540 แสดง ณ หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 “ผู้จัดการออนไลน์” นำมาถ่ายทอดเพื่อรำลึกถึงนักสู้ผู้จากไป ดังนี้
กราบสวัสดีท่านอาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ อาจารย์ประเวศ วะสี ผู้ที่ดิฉันเคารพเสมอมา กราบสวัสดีท่านผู้มีเกียรติทุกท่านที่ได้สละเวลามาในวันนี้ และต้องขอขอบคุณพี่ชาญวิทย์ อร่ามฤทธิ์ ที่ได้กรุณาแนะนำตัวดิฉัน ซึ่งดิฉันรู้สึกว่า พี่ชาญวิทย์ เป็นพี่ชายของดิฉันมาโดยตลอด และต้องขอขอบพระคุณมูลนิธิโกมลคีมทองที่ได้จัดงานนี้ขึ้นมา
ความจริง ดิฉันค่อนข้างจะละอายใจที่ได้รับเกียรติเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ดิฉันคิดว่าการพูดของดิฉันในวันนี้ ส่วนหนึ่งมาจากหัวใจของดิฉัน อีกส่วนหนึ่งมากจากเสียงเรียกร้องของคนจน และอีกส่วนมาจากวีรชนนิรนามทั้งหลาย ที่เป็นผู้อุทิศทำงานเพื่อคนยากจน เพื่อความเป็นธรรมในสังคม แต่ไม่เคยปรากฎชื่อเสียงเรียงนาม
มี ผู้ตั้งคำถามมากมายว่าทำไมต้องช่วยคนจน ทำไมไม่เอาตัวเองให้รอดเสียก่อน ทำไมจะต้องไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของคนอื่น และก็มีคำถามอีกมากมาย เบื้องหลังของคำถามนี้ บางครั้งก็มาจากความห่วงใย แต่บางครั้งก็ด้วยความขุ่นเคือง
ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย ความยากจนเป็นสิ่งที่ทุกคนรังเกียจ และพยายามจะหนีไปให้ไกลที่สุด บางคนพยายามจะฆ่าตัวตายเพื่อหนีความยากจน และบางคนพยายามจะฆ่าคนอื่นเพื่อหนีให้พ้นความยากจนเช่นกัน สภาพชีวิตของดิฉันที่ผ่านมา บางครั้งก็อาจเรียกได้ว่ายากจนอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขนาดอดมื้อกินมื้อ หรือไม่มีที่นอน ถ้านับว่ามีคนจนมากมายแค่ไหนในประเทศนี้ สมมติว่ามีประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ดิฉันคิดว่าดิฉันยังอยู่ห่างจากพวกเขาหลายเท่าตัวนัก
แต่ ดิฉันคิดว่าความยากจนไม่ใช่สิ่งน่ารังเกียจ ถ้าเป็นเพียงความยากจนทางด้านวัตถุ หรือว่าไร้ชื่อเสียงเกียรติยศต่างๆ เพราะว่าความยากจนก่อให้เกิดความเรียบง่าย ความสมถะ และลึกๆ แล้วมีความสุข
ดิฉันเคยเป็นแม่ค้า เคยมีชีวิตต้องดิ้นรนอยู่กับการคำนวณตัวเลข การกักตุนสินค้า การพูดคุยหลอกล่อผู้คน ซึ่งดิฉันประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ดิฉันก็รู้สึกว่าการประสบผลสำเร็จเช่นนั้น ดิฉันไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่นัก เพราะในโลกของการแข่งขัน เราไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง และรู้สึกว่าเป็นนายพรานที่คอยล่าเหยื่อ ดิฉันคิดว่ามนุษย์ในสังคมทุกวันนี้ ทุกคนมีโอกาสที่จะเป็นทั้งนายพรานและเป็นทั้งเหยื่อ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอด แต่มนุษย์มีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดซึ่งอยู่บนความวอดวายของสิ่งอื่นๆ ได้อย่างน่าตกใจ
หลายครั้งที่ดิฉันประสบความล้มเหลว ประสบภาวะล้มละลายหรือถังแตก แต่ในภาวะอย่างนั้น ดิฉันกลับพบมิตรแท้ เพื่อนที่คอยเอื้ออาทร ช่วยเหลือเกื้อกูลโดยที่ไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน
ดิฉัน เคยเดินเข้าไปในสลัม ได้รับการต้อนรับจากผู้คนในสลัม ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยรู้จักหัวนอนปลายตีนมาก่อน แต่เขาก็ให้การต้อนรับด้วยสิ่งที่ดีที่สุดที่เขามีอยู่
ดิฉันเคยไปที่บ้านของคนจนในประเทศอินเดีย บริเวณเทือกเขาหิมาลัย พวกเขาให้การต้อนรับดิฉันเหมือนเป็นคนในครอบครัวของเขา ภายใต้เสื้อผ้าขาดๆ หรือใบหน้ามอมแมม ดิฉันพบความจริงใจอยู่มากพอสมควร
นี่คือสิ่งที่ดิฉันพยายามบอกว่า ในความยากจนนั้นก็มีสิ่งที่ดีงามอยู่มากมาย แต่ไม่ได้หมายความว่าความยากจนจะดี หรือความมั่งมีจะไม่ดี เพียงแต่สาระสำคญที่แท้จริงของธรรมชาติก็คือ ในความมืดย่อมสามารถหาแสงสว่างได้ และในความสว่างจ้าเฉกเช่นดวงอาทิตย์ ก็ยังมีความมืด นั่นคือหลุมดำอยู่เช่นกัน เพราะฉะนั้น จะมั่งมีหรือจะยากจน เราสามารถแสวงหาความสุขได้เท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับใจของเราเอง
ความ ยากจนคืออะไร ดิฉันคิดว่าแม้ไม่จบ ป.4 หรือ ป.6 ทุกคนก็ตอบได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ดิฉันคิดว่าความยากจนน่าจะเกิดมาจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกรังแกและขาดโอกาส มีบางคนบอกว่า ไม่มีความยากจนถ้าพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ แต่ดิฉันขอเสริมว่า ไม่มีความทุกข์ยาก ถ้ามีความยุติธรรม ทำไมดิฉันใช้คำว่าความทุกข์ยาก เพราะบางครั้งความยากจนไม่ใช่ความทุกข์ เช่น ไม่มีเสื้อผ้าสวยๆ ใส่ อาจจะไม่ใช่ความทุกข์ แต่ถ้าเราไม่มีจะกิน ไม่มีที่อยู่อาศัย ดิฉันคิดว่านี่คือความทุกข์
ดิฉัน คิดว่าสาเหตุแห่งความทุกข์ยากเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องของเวรกรรม เพราะว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน มนุษย์ทุกคนเกิดมาตัวเปล่า ไม่มีอะไรติดตัวออกมาเลย แต่ทำไมบางคนมีชีวิตที่สุขสบายโดยไม่ต้องทำงานหนัก แต่ทำไมบางคนทำงานหนักแทบตาย เพียงเพื่อจะมีอาหารแค่มื้อนี้หรือมื้อหน้าเท่านั้น ดิฉันคิดว่าน่าจะมีอะไรซับซ้อนมากกว่านั้น
เมื่อห้าปีที่แล้ว ดิฉันได้ไปที่จังหวัดอุบลราชธานี ชาวบ้านที่นั่นยังมีวิถีชีวิตดั้งเดิม หาปลาเพื่อที่จะเป็นอาหาร เพื่อที่จะเป็นค่าเล่าเรียนของลูก ใช้พักผ่อนหย่อนใจ หรือเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย พวกเขามีวิถีชีวิตเช่นนี้มานานหลายร้อยปี หลักฐานสำคัญก็คือ ชุมชนที่ตั้งอยู่ริมน้ำมูนนั้นเป็นชุมชนที่ใหญ่พอสมควร พื้นดินไม่ค่อยมีความอุดมสมบูรณ์ แต่ธรรมชาติก็ได้ให้แม่น้ำมูนที่มีความอุดมสมบูรณ์ แม่น้ำมูนช่วงปลายในจังหวัดอุบลราชธานีมีแก่งต่างๆ ถึง 30 กว่าแก่ง
ประชาชนชาวบ้านปากมูนใช้ชีวิตอยู่บนแก่ง เช้าขึ้นก็จะลงไปที่แก่ง เอาเบ็ด เอาแห เอาอวน หรือเครื่องมือต่างๆ ที่ทุกคนถนัดใช้จับปลา ผู้หญิงหรือคนแก่ก็จะเข้าป่า เก็บผัก ผ่าฟืน หากได้ปลามาก ก็จะหาบปลาไปแลกข้าว เพราะที่นั่นไม่ค่อยจะมีนาปลูกข้าว ที่ดินไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์เท่าที่ควร
ดิฉันได้ไปที่นั่น ขณะที่ชาวบ้านกำลังต่อต้านการสร้างเขื่อนปากมูล เขื่อนปากมูลได้รับการอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรีในยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และก่อสร้างในยุค รสช. ดิฉันทราบภายหลังว่าการอนุมัติสร้างเขื่อนปากมูล คณะรัฐมนตรีไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เขาอนุมัติเพราะตัวเลขความสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
เรื่อง นี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจ เพราะว่าแม่น้ำมูนช่วงปลายเป็นที่อุดมสมบูรณ์แห่งเดียวของภาคอีสานที่เหลือ อยู่ เป็นบริเวณเดียวที่เป็นทางเข้าของปลาที่มาจากแม่น้ำโขง ซึ่งหล่อเลี้ยงผู้คนภาคอีสานกว่า 11 จังหวัดที่แม่น้ำมูนไหลผ่าน
ทำไม ดิฉันถึงเข้าร่วมกับชาวบ้านที่ปากมูน ตอนนั้นดิฉันยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก เพราะกินข้าวเหนียวไม่เป็น ปลาร้าก็ยังไม่รู้จัก เคยเห็นแต่อยู่ในจานหรือเคยได้ยิน ไม่เคยเข้าใจวิถีชีวิตของคนอีสาน การเข้าร่วมกับชาวบ้านปากมูน เป็นครั้งแรกที่ดิฉันเรียนรู้ว่า วิถีชีวิตของคนชนบทที่พึ่งพาธรรมชาติมีความละเอียดอ่อนมากแค่ไหน
ชาวบ้านไม่มีธนาคาร ไม่มีเงินฝากธนาคาร ไม่มีห้างสรรพสินค้าจะไปจับจ่ายซื้อของ เพราะเขาไม่มีเงิน แต่เขาอยู่ได้อย่างไร เขาอยู่กับธรรมชาติค่ะ ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทำให้เขาสามารถเลี้ยงลูกหลานสืบทอดมาจนกลายเป็น ชุมชนที่ใหญ่โตของบริเวณอำเภอโขงเจียม อำเภอสิรินธร และอำเภอพิบูลมังสาหาร ฟังชื่อก็ทราบแล้วว่าพิบูลมังสาหารแปลว่าอะไร
มี แม่ใหญ่คนหนึ่งเป็นผู้นำการต่อสู้ของชาวบ้านปากมูน พูดภาษาไทยไม่ได้ แต่พูดภาษาอีสานบอกว่า ถ้ามีคนขึ้นมาบนบ้าน แล้วบอกให้ถอนเสาเรือนออกไป อพยพออกไป จะมีความรู้สึกอย่างไร นี่คือคำพูดของแม่ใหญ่เต่านาจาน ซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว ในขณะที่การต่อสู้ของชาวบ้านปากมูนยังคงอยู่
พี่น้องคะ ขณะนี้ชาวบ้านปากมูนไม่เหลืออะไรแล้วในชีวิต เพราะเขาไม่เคยฝากเงินกับธนาคาร ไม่เคยรู้ว่าวันใดที่รัฐบาลจะมาสร้างเขื่อน ซึ่งเขาไม่สามารถหากินบริเวณนั้นได้อีกต่อไป แม่น้ำมูน ธรรมชาติริมมูน คือธนาคารของชาวบ้าน
เพราะฉะนั้นเขาไม่เคยคิดจะสะสมเงิน ถ้าชาวบ้านจะจับจ่ายใช้สอย เขาก็ลงไปหาปลา ชาวบ้านไม่เคยมีความโลภว่าต้องหาปลามากๆ เพื่อเป็นพ่อค้าปลาเอาไปขายในห้องเย็น ไม่เคยเป็นอย่างนั้น พ่อค้าหรือแม่ค้าที่อยู่ในหมู่บ้านเป็นเพียงคนหาปลาและรวบรวมปลาในหมู่บ้าน ไปขายต่อเท่านั้น ชีวิตเป็นอย่างนั้นจนกระทั่งปี พ.ศ.2534 ในขณะที่พวกเราในเมืองหลวงเริ่มรู้จักการใช้บัตรเครดิต เริ่มรู้จักการกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม เริ่มรู้จักใช้โทรศัพท์มือถือ
เขื่อนปากมูลสร้างเพื่อผลิตไฟฟ้า 136 เมกะวัตต์ ดิฉันไม่ทราบว่ามากมายแค่ไหน แต่เท่าที่มีคนบอก 136 เมกะวัตต์อาจจะใช้ได้เท่ากับห้างสรรพสินค้า 10-20 ห้างอย่างมากที่สุด แต่เราได้แลกไฟฟ้ากับความอุดมสมบูรณ์แห่งสุดท้ายของจังหวัดอุบลราชธานี หรือภาคอีสาน นี่คือบทเรียนที่ดิฉันทำได้เพียงสะท้อนสิ่งเหล่านี้ออกไปให้กับผู้คนที่ไม่ มีข้อมูลเหล่านี้ได้ทราบ
เขื่อน ปากมูลหางจากเขื่อนสิรินธรไม่เกิน 10 กิโลเมตร เขื่อนสิรินธรเป็นเขื่อนที่สร้างในยุคเผด็จการ คือจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และจอมพลถนอม กิตติขจร จุดมุ่งหมายเดียวของการสร้างเขื่อนสิรินธรคือเพื่อความมั่นคงของชายแดน
ผืน นาที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของชาวบ้านอุบลราชธานีบริเวณแม่น้ำโดมน้อยสองแสนไร่ จมน้ำ แม่น้ำโดมน้อยอยู่เหนือปากมูลขึ้นไปประมาณ 10-20 กิโลเมตร เป็นแม่น้ำที่ไหลลงแม่น้ำมูล เขากั้นเขื่อนตรงนั้นเพียงเพราะว่าไม่ต้องการระบอบคอมมิวนิสต์ ไม่ต้องการใหคนเป็นคอมมิวนิสต์ เลยเอาน้ำท่วมคอมมิวนิสต์นั่นแหละค่ะ
บริเวณป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานีเป็นป่าดงดิบ มีแม่น้ำ มีน้ำตกที่สวยงามที่สุดที่ร่ำลือกันในสมัยนั้น ท่านเผด็จการทั้งหลายก็ได้สร้างเขื่อนบริเวณนั้น หลายหมู่บ้านต้องอพยพไปอยู่ประเทศลาว เพราะไม่มีการจัดที่ดินอุดมสมบูรณ์ทดแทนให้ พี่น้องบางส่วนกลายเป็นขอทาน เดินไปขอทานหมู่บ้านอื่นๆ ที่พอจะมีข้าว
พี่ น้องเขื่อนสิรินธรขณะนี้กำลังมาเรียกร้องอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เป็นผลพวงจากความคับแค้นจากการเสียสละเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ลูกหลานต้องไปทำงานก่อสร้าง ต้องไปเสี่ยงตายที่ต่างประเทศ ทุกวันนี้ชาวบ้านเขื่อนสิรินธรหลายพันครอบครัวยังมีชีวิตอยู่ เยี่ยงที่เขาบอกว่าใต้เส้นความยากจน เมื่อปีที่แล้วท่านนายกรัฐมนตรีบรรหาร ศิลปอาชา ได้ไปดูพื้นที่ด้วยตัวเอง ยอมรับว่าที่ดินที่รัฐจัดสรรให้นั้นไม่สามารถปลูกอะไรได้เลย
ความทุกข์ทรมานของชาวเขื่อนสิรินธรเหล่านี้มีมา 20 กว่าปีแล้ว จะไม่ให้ชาวบ้านปากมูนประท้วงครั้งแล้วครั้งเล่าหรือคะ เพราะนั่นคือภาพที่เขาเห็นอยู่ทุกวัน เป็นภาพยนตร์ที่ฉายให้พวกเขาดูอยู่ตลอดเวลาว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีการสร้างเขื่อน เพราะฉะนั้น พี่น้องอาจจะรำคาญบ้างเมื่อได้ยินหรือได้ทราบข่าว เอาอีกแล้วไอ้พวกนี้ประท้วงอีกแล้ว ปากมูนอีกแล้วหรือนี่ทำไมไม่จบไม่สิ้น ถ้าท่านเป็นชาวบ้านปากมูน ท่านก็ต้องทำอย่างนี้ค่ะ เหมือนกับอยู่ดีๆ เรามีเงินเดือน แล้วไม่ได้รับอีกต่อไป หรือเรากำลังคิดสร้างบ้านให้กับลูกชาย แต่ทุกกิจกรรมต้องหยุดหมด เมื่อมีการประกาศสร้างเขื่อน
ใน หลายๆ เขื่อน เขื่อนโป่งขุนเพชร เขื่อนแก่งเสือเต้น ชาวบ้านอยู่มานาน พอประกาศสร้างเขื่อน รัฐหยุดการพัฒนา ไม่ทำถนน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ เพราะว่าบริเวณนั้นจะใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ชาวบ้านแก่งเสือเต้นอยู่กับสภาพอย่างนี้กว่าสิบปีแล้ว หวาดวิตกว่าจะสร้างเขื่อนหรือไม่ จะปลูกต้นมะขามสักต้นก็คิดแล้วคิดอีกว่าปลูกไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไรเพราะ น้ำจะท่วม วิตกทุกข์ร้อนว่าลูกหลานจะอยู่อย่างไร
พี่น้องปากมูลพยายามที่จะยืนหยัดคัดค้านการสร้างเขื่อน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมได้รับบาดเจ็บ ถูกจับกุม เขื่อนก็ได้ก่อสร้างจนสำเร็จ ขณะนี้ลูกหลานชาวปากมูลหลายคนต้องออกจากโรงเรียน หลายคนแทนที่จะได้เรียนต่อในชั้นมัธยม ก็ต้องไปเป็นกรรมกรก่อสร้าง นี่คือข้อเท็จจริงที่อยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล ถ้าพี่น้องหรือท่านทั้งหลายอยากจะเข้าใจ ลองไปสอบถามพวกเขาได้
หลายวันก่อน ดิฉันนั่งแท็กซี่ คนขับแท็กซี่บอกว่า “ทำไมไอ้พวกคนจนไม่ยอมกลับบ้านเสียที มานั่งของเงินรัฐบาล” ใช่ค่ะ ขณะนี้พวกเขาเป็นขอทาน ขอทานเกิดจากอะไร ขอทานเกิดจากวิธีการพัฒนาที่ผิดพลาดในอดีต ถ้าท่านเดินไปตามท้องถนนเห็นขอทานเดินผ่าน ท่านลองสอบถามเขาดู เขาอาจมาจากหมู่บ้านที่มีการก่อสร้างเขื่อนโดยไม่ดูตาม้าตาเรือก็ได้
หันมามองอีกด้านหนึ่ง ดิฉันเคยไปที่จังหวัดกำแพงเพชร เป็นหมู่บ้านของชาวม้งและชาวปกากะญอ หรือที่พวกเราเรียกว่าชาวกะเหรี่ยง อยู่ในป่าอุทยานแห่งชาติของจังหวัดกำแพงเพชร พวกเขาได้รับผลกระทบจากนโยบายอพยพชาวเขาลงมาจากดอยทั้งหมดหลายสิบจังหวัด หลายร้อยอำเภอในภาคเหนือ ตามนโยบายของกรมป่าไม้
พวก เขามีความผิดอะไร พวกเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บุกรุกทำลายป่า พวกเขาอาจมีผ้าห่มคนละ 2-3 ผืน แต่เขามีความสุขกับการมีที่ดินไว้ปลูกข้าว มีที่ดินที่จะทำไร่หรือปลูกผัก มีแม่น้ำลำธารอยู่บนภูเขาที่ใช้อาบ มีเวลาได้นั่งร้องเพลง นั่นคือชีวิตหลายร้อยปีมาแล้วของพี่น้องที่อยู่บนดอย ซึ่งถูกข้อหาตัดไม้ทำลายป่า แต่ใครกันแน่ที่ตัดไม้ทำลายป่า ดิฉันคิดว่าไม่ต้องบรรยายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านทั้งหลายที่อยู่ในนี้เข้าใจสภาพการณ์บ้านเราดีว่าป่าไม้ต้องหมดไปเพราะ อะไร
พี่น้องชาวเขาขณะนี้กำลังถูกข้อหาทำลายป่า จะต้องอพยพออกจากพื้นที่ที่จังหวัดกำแพงเพชร ได้มีการอพยพมาหลายพันครอบครัว มาอยู่ที่ราบติดถนน ถ้าเป็นนายทุนจะต้องร่ำรวยแน่ถ้ามาอยู่บริเวณนั้น แต่นี่พี่น้องชาวเขามีบ้านไม้ไผ่อยู่ริมทางหลวง เพราะว่ารัฐไม่ได้สร้างบ้านให้ พวกเขาต้องหาไม้ไผ่สร้างบ้านกันเอง ในหมู่บ้านริมทางหลวงก็ไม่ค่อยมีใครอยู่ ส่วนใหญ่มีแต่คนแก่กับเด็ก คนหนุ่มสาวล้วนเข้ามาในเมืองทั้งสิ้น บางคนต้องแอบไปรับจ้างเพราะไม่มีบัตรประชาชน
ป่า ไม้ของเราหมดไปไม่ใช่เพราะชาวเขา ดิฉันยืนยันได้ เพราะดิฉันเห็นกับตา เพราะถ้าป่าไม้หมดเพราะชาวเขา ป่านนี้ชาวเขาน่าจะเป็นชาวเมืองไปแล้ว น่าจะได้มาอยู่คอนโดมิเนียม กระบวนการตัดไม้ทำลายป่าเป็นกระบวนการซับซ้อนภายใต้ระบบบริโภคนิยมที่ บริโภคอย่างไม่รู้จักพอ คนร่ำคนรวยหรือนักการเมืองทั้งหลายที่นั่งอยู่ที่รัฐสภา ขณะนี้มีเงินใช้จ่ายในการหาเสียงก็มาจากการสัมปทาน หรือการผลาญทรัพยากรธรรมชาติทั้งสิ้น โดยโยนข้อหาเหล่านี้ให้แก่ประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ท่านทั้งหลายอาจจะเคยได้ยินว่าชาวบ้านโพธิ์เขียวเป็นชาวสุพรรณบุรี แท้จริง ทำนาอย่างเดียว ในชีวิตไม่เคยทำอย่างอื่น เพราะชีวิตของคนภาคกลางนั้นอยู่บนความอุดมสมบูรณ์ของที่ราบลุ่มภาคกลาง เป็นเวรกรรมของพี่น้องโพธิ์เขียวไปอยู่ในบริเวณที่จะขยายความเจริญ จะมีการสร้างศูนย์ราชการ ศูนย์ราชการคืออะไรคะ ศูนย์ราชการคือการสร้างสถานีอนามัยแห่งใหม่ คือการสร้างโรงเรียนแห่งใหม่
การ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและความเจริญใหม่ๆ พี่น้องสุพรรณบุรีก็ถูกข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณะประโยชน์ พวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นที่ดินสาธารณะไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาทำนามาร้อยปี ไม่มีใครบอกว่านี่เป็นที่สาธารณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีก็ยังถมดินลงไปในนาข้าว คนปลูกข้าวจะมีความเจ็บปวดมากแค่ไหน ข้าวที่กำลังขึ้นงอกงามแตกรวงนั้นถูกเอาดินถมยังไม่ทันได้เก็บเกี่ยว เรื่องนี้มีมานานแล้ว ประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว
พี่น้องจังหวัดบุรีรัมย์ก็เช่นเดียวกัน ท่านโดนข้อหาบุกรุกสถานที่ที่ดินสาธารณะประโยชน์ มีการประกาศหนังสือ นสร.ประกาศว่าเป็นที่ดินของรัฐ โดยมีการขึ้นทะเบียนไว้ ทั้งๆ ที่รอบข้างเป็นที่ดินของ ส.ส. แต่เฉพาะที่ของชาวบ้านทุ่งดอนแก้ว อ.นางรอง เป็นที่ดินสาธารณะ ต้องเป็นที่ดินหลวง ซึ่งจะต้องเอามาทำศูนย์ราชการ มาสร้างศาล สร้างเรือนจำ การก่อสร้างศาลก็ไปละเมิดสิทธิของชาวบ้านด้วย การยึดที่ของชาวบ้านก็เหมือนกันค่ะ
กรณี โรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรมเจนโก้ก็เช่นเดียวกัน พี่น้อง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ปลูกยางพารา ทำสวนทุเรียน สวนเงาะ วันดีคืนดีก็มีโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ดที่จะขยายโครงการเข้าไปจัดสร้างนิคม อุตสาหกรรมขนาดยักษ์ ไม่ใช่ขนาดใหญ่นะคะ เรียกได้ว่าขนาดยักษ์ แต่ว่าการลงทุนของภาคเอกชนหรือการลงทุนของนายทุนต่างชาติในบ้านเรา
ดิฉัน คิดว่าเป็นการลงทุนอย่างละโมบ เพราะเรื่องโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรมเพิ่งมีคิดสร้างกันภายหลัง ไม่มีการวางแผน ไม่มีการคิดอย่างเป็นระบบ เพราะฉะนั้น จะหาที่ซึ่งราคาถูก ก็ต้องไปเอาที่ของชาวบ้าน ไปสร้างอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ซึ่งคนต้องบริโภคกันทั้งอำเภอ พี่น้องชาวปลวกแดงก็คัดค้านกันอย่างหนัก จนบัดนี้ เรื่องก็ยังอยู่ในกระทรวงอุตสาหกรรม ยังหาข้อยุติไม่ได้ว่าจะสร้างโรงงานกำจัดกากที่ไหน
อีก กลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ทำงานในโรงงานมาสามสิบปี ปอดถูกเฉือนไปครึ่งหนึ่งเนื่องจากฝุ่นฝ้าย ฝุ่นจำนวนมากในโรงงานเข้าไปในปอด เจ้าของโรงงานไล่เขาออก ข้อหาว่าไม่สามารถปฏิบัติงานได้ โดยที่รัฐไม่ได้เข้ามาเหลียวแล ประเทศเราพัฒนาอุตสาหกรรมมาสามสิบกว่าปี ล้วนแต่ใช้ชีวิต เลือดเนื้อ และอนาคตของคนงานเหล่านี้ทั้งสิ้น แต่วันดีคืนดีที่พวกเขาเจ็บป่วยกลับไม่มีใครเหลียวแล ผู้นำแรงงานที่ต่อสู้เพื่อเรื่องนี้ถูกไล่ออก สามีถูกกลั่นแกล้ง อนาคตของพวกเขาอยู่ที่ไหน
เพราะฉะนั้น ดิฉันคิดว่าความยากจนเหล่านี้น่าจะเกิดจากความไม่เป็นธรรมมากกว่า และยังเกิดจากระบบที่เลือกปฏิบัติ ทำไมคนบางคนจึงสามารถมชีวิตอยู่ได้บ้างพอสมควร แต่ว่าคนส่วนใหญ่ต้องเดือดร้อน หรือถูกเอารัดเอาเปรียบ ดิฉันจึงคิดว่าระบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เป็นระบบเลือกปฏิบัติกับผู้ที่อ่อน แอกว่า กับผู้ที่มีโอกาสน้อยกว่า กับผู้ที่รู้น้อยกว่า
สิ่งที่ดิฉันอยากจะพูดอีกเรื่องหนึ่งคือ ทำไมเราถึงต้องช่วยคนจน
ท่าน ทั้งหลายที่นั่งอยู่ในนี้ ไม่มีใครปลูกข้าว ไม่มีใครทอผ้าใส่เอง ไม่มีใครทำถนนได้เอง แม้กระทั่งยาสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคก็มาจากชนบท มาจากป่าเขาลำเนาไพร คนกวาดถนน คนลอกท่อ คนทำความสะอาดในบ้านเราก็มาจากคนยากคนจนทั้งสิ้น ถ้าไม่มีคนเหล่านี้เราจะอยู่ได้อย่างไร
ข้าว ที่เรากินก็มาจากชาวนา ปลาที่เรากินก็มาจากชาวประมง อาคารบ้านเรือนใหญ่โต ใครเป็นผู้สร้าง ในอดีต ปิรามิดใครเป็นผู้สร้าง กำแพงเมืองจีนใครเป็นผู้สร้าง ถ้าไม่ใช่คนยากจนหรือคนทุกข์ยากที่ถูกเกณฑ์มา อารยธรรมทั้งหลายที่สร้างด้วยน้ำมือของคนจน ความเจริญทั้งหลายสร้างด้วยน้ำมือของคนจน แต่เมื่อมีความเจริญ พวกเขากลับถูกกีดกันออกไปไม่ให้รับความเจริญ
พี่น้องเขื่อนสิรินธรไม่มีไฟฟ้าใช้สามสิบปี เรามีไฟฟ้าใช้เมื่อไหร่คะ ในกรุงเทพฯ มีไฟฟ้าใช้มาแล้วสี่สิบปี คนบริเวณเขื่อนสิรินธรเพิ่งมีไฟฟ้าใช้เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ชาวบ้านเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ ก็เพิ่งมีไฟฟ้าใช้เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ความเจริญเหล่านี้ถูกดึงเข้าสู่คนที่มีโอกาสกว่า แต่คนที่เสียสละถูกกีดกันออกไป
ใน ยุคสังคมปัจจุบัน เราวัดค่ากันที่เงิน แม้กระทั่งราคาของความเป็นคนก็วัดกันที่เงิน แต่ดิฉันอยากถามว่าใครเป็นผู้กำหนดอัตราค่าแลกเปลี่ยนเหล่านี้ คนจนมีส่วนร่วมไหม ถ้าคนจนมีส่วนร่วม ทำไมข้าวเปลือกถึงถูก ข้าวสารถึงแพง ทำไมค่าแรงถึงต่ำ แต่สินค้าสำเร็จรูปถึงได้มีราคาแพง เพราะว่าคนยากจนซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีโอกาสกำหนดมูลค่าของ สิ่งของที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบันนี้ เขาถูกเอาเปรียบพอสมควร
เพราะฉะนั้น ดิฉันคิดว่าความยากจนเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากเวรกรรม แต่เกิดขึ้นจากความไม่เป็นธรรม
หัน มาดูเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พวกเราเป็นคนที่อยู่ในเมือง หลายคนมาจากภาคธุรกิจเอกชน หลายคนเป็นข้าราชการ เป็นคนชั้นกลาง แต่ดิฉันคิดว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นสามัญชนซึ่งซึมซับหรือยอมรับได้ว่า ทรัพยากรทั้งสิ้นทั้งปวงล้วนอยู่ในชนบท สิ่งที่พวกเราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสะดวกสบายพอสมควร ก็ล้วนเอามาจากธรรมชาติทั้งสิ้น วัตถุดิบหรือวัตถุดิบที่แปรรูปแล้ว ก็ลำเลียงมาจากชนบท ผู้คนในชนบทเป็นผู้สร้าง ผู้ผลิต และเป็นผู้ดูแลรักษา ถ้าไม่มีคนชนบทเราจะดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร
ดิฉันเคยคุยกับชาวบ้านที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติจังหวัดอุบลราชธานี เขาบอกว่าอยากจะรักษาป่า แต่นายทุนลำเลียงไม้ผ่านหน้าบ้านเขา เขาไม่รู้จะจัดการอย่างไร เพราะรัฐไม่ได้ออกกฎหมายให้เขามีอำนาจจัดการคนเหล่านี้ นายทุนเข้าไปตัดไม้เป็นเวลาหลายสิบปีจนกระทั่งไม้หมด รัฐบาลไปประกาศว่าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อที่จะปลูกป่าให้สมบูรณ์ แต่เอาชาวบ้านออกจากพื้นที่ โดยอ้างว่าชาวบ้านจะตัดไม้ทำลายป่า
คนชนบทเป็นคนที่สามารถดูแลทรัพยากรได้ เพราะป่าไม้ ภูเขา แม่น้ำ คือชีวิตของเขา ถ้าไม่มีป่าไม้ เขาก็อยู่ไม่ได้ จะเอาป่าที่ไหนหาสมุนไพร จะเอาป่าที่ไหนหาเก็บเห็ดหรือหน่อไม้ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถผลิตจากโรงงาน แต่เกิดขึ้นจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ถ้าเขาไม่สามารถรักษาป่าได้ด้วยตัวเขาเอง เขาก็อยู่ไม่ได้
แม่น้ำก็เช่นเดียวกัน พี่น้องปากมูนส่วนใหญ่เป็นชาวประมงริมน้ำ หากินตามธรรมชาติ ไม่ได้ละโมบโลภมาก เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาจับปลามากเกินไป ลูกหลานเขาจะไม่มีกิน เขาก็จับเพียงพอสมควร พอเอาไว้ใช้สอย เพื่อให้ลูกหลานได้มีปลาที่จะจับ ในชนบทที่อื่นก็เช่นเดียวกัน
ดิฉัน คิดว่าผู้คนในชนบทเหล่านี้จะเป็นกำลังในการรักษาธรรมชาติ แต่ที่ผ่านมารัฐเป็นผู้จัดการทำองทั้งหมด รัฐเป็นผู้รวมศูนย์การจัดการทรัพยากร โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐจัดการป่าไม้โดยกรมป่าไม้ จัดการน้ำโดยกรมชลประทาน แต่การจัดการทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรป่าไม้ ล้มเหลวมาตลอดเวลาเกือบ 100 ปี ก็เพราะว่าเราไม่เคยให้ผู้คนที่อยู่ในพื้นที่นั้นจริงๆ ได้มีส่วนร่วมกำหนดว่ามีความเหมาะสมเพียงไหน ที่จะสร้างเขื่อน ที่จะตัดไม้ทำลายป่า
พี่น้องส่วนหนึ่งในภาคอีสานถูกบังคับให้ออกไปจากพื้นที่ที่เขาเคย อยู่ เพราะรัฐจะไปปลูกป่าเพิ่มเติม รัฐจะทำให้ป่าเพิ่มขึ้นด้วยการดูจากตัวเลขว่า ถ้าพื้นที่ป่าไม้มี 20 เปอร์เซ็นต์ ก็จะแสดงถึงความไม่มั่นคงไม่มีเสถียรภาพทางระบบนิเวศ
เพราะฉะนั้นน่าจะมีป่า 50 เปอร์เซ็นต์ ก็เลยคิดจะปลูกป่า แต่ต้องให้นายทุนมาปลูกป่า ถ้าปลูกแบบชาวบ้าน เขาว่าจะเพิ่มพื้นที่ป่าได้น้อย พอปลูกแบบนายทุนก็ต้องมีผลประโยชน์ตอบแทน ก็ต้องปลูกไม้โตเร็ว ไม้โตเร็วส่วนใหญ่คือยูคาลิปตัส ซึ่งพวกเราหลายคนก็พอทราบอยู่ว่า ยูคาลิปตัสนั้นทำลายระบบนิเวศในบริเวณที่ปลูกมากมายแค่ไหน ชาวบ้านเล่าว่าแม้แต่ตัวกะปอมหรือกิ้งก่าก็ไม่กล้าเกาะต้นยูคาลิปตัส ใบยูคาลิปตัสเป็นพิษทั้งหมด ต้นข้าวที่อยู่ใต้ยูคาลิปตัสก็จะตาย น้ำในบริเวณนั้นก็จะเหือดแห้งในไม่กี่ปี
ดิฉัน คิดว่าการจัดการทรัพยากรที่ผ่านมาล้มเหลวจากระบบที่เราพยายามรวมศูนย์ ฝากความหวังไว้กับรัฐ แต่รัฐเองเป็นผู้ใช้ทรัพยากรเหล่านั้น เป็นผู้คอรัปชั่นด้วยกระบวนการฉ้อฉลต่างๆ เพื่อที่จะนำทรัพยากรนั้นไปแปรเป็นเงินให้กับนักการเมือง ให้กับข้าราชการ หลายท่านคงทราบดีว่าตำแหน่งอธิบดีกรมต่างๆ นั้นต้องใช้เงินซื้อมากมายแค่ไหน เท่าที่ดิฉันทราบตัวเลข ล่าสุดเกินร้อยล้านขึ้นไป ท่านอธิบดีทั้งหลายจะเอาเงินมาจากไหน ท่านก็ลองคิดดูนะคะ
สิ่ง ที่ดิฉันได้พูดมาทั้งหมด อยากจะเรียนให้ท่านทั้งหลายได้ทราบว่า ความยากจนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากความเป็นธรรมชาติของมันเอง แต่ความยากจนเกิดจากความไม่เป็นธรรม การจัดสรรที่ไม่เป็นธรรม ขาดการแบ่งปันให้กันและกัน ดิฉันคิดว่าคนยากจนทั้งหลายคือพลังที่ยิ่งใหญ่ของสังคม ท่านที่เป็นพ่อค้า ท่านที่เป็นนายทุน ท่านจะผลิตให้ใครบริโภค ถ้าไม่ใช่คนจน ท่านจะผลิตให้ใครซื้อ ถ้าไม่ใช่คนจน คนจนเป็นคนที่มีอำนาจซื้อมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันเป็นคนที่มีอำนาจอ่อนแอที่สุดเหมือนกัน
ดิฉัน คิดว่าสังคมจะอยู่อย่างมีความสุข ด้วยการที่เราพยายามช่วยเหลือคนจนเหล่านี้ ไม่ด้วยทางใดก็ทางหนึ่ง เราจำเป็นต้องตอบแทนพวกเขา ในขณะที่เราไม่ต้องปลูกข้าว ถ้าเราไม่ช่วยชาวนา ลูกหลานของเราในอนาคตอาจจะไม่มีข้าวกิน ในขณะที่เราไม่ต้องทอผ้า เราก็ต้องช่วยคนงาน เพราะว่าคนงานคือคนที่จะผลิต ทอผ้าให้เรา
พี่น้องสมัชชาคนจนที่นั่งอยู่ที่นี่ และท่านทั้งหลายที่มาให้กำลังใจการพูดของดิฉันในวันนี้ หรือให้กำลังใจกับคนยากคนจนที่อยู่หน้าทำเนียบโดยทางอ้อม ดิฉันคิดว่าในยุคสมัยนี้ถึงเวลาที่พวกเราไม่ว่ายากดีมีจนจะต้องร่วมมือกัน ต้องช่วยเหลือกัน เพราะสังคมนี้เป็นของลูกหลานของเราในอนาคต พวกเราไม่มีสิทธิที่จะซื้อขายหรือทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นมรดกของคนรุ่นต่อไป คนรุ่นต่อไปต้องมีสิทธิที่จะใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เท่าเทียม กับคนในยุคของเรา
ขณะ นี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกหลานของเราเองต้องประสบกับมลพิษทางอากาศ เด็กเกิดมาไม่ได้อยู่ในอ้อมอกของพ่อแม่อีกต่อไป แต่ต้องมีกระบวนการจัดการให้คนอื่นมาเป็นผู้ดูแล
ดิฉัน อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ทุกวัน เด็กเล็กๆ จะต้องตายไปโดยไม่มีสาเหตุอันควร เพราะอยู่ห่างไกลพ่อแม่ พ่อแม่ไม่มีโอกาสได้ดูแล พออายุสองขวบก็ถูกส่งเข้าเนิอร์สเซอรี่ อายุสามขวบถูกส่งเข้าอนุบาล ใครจะรักลูกเท่ากับพ่อแม่ ใครจะสามารถดูแลลูกทุกเวลาทุกวินาทีได้เท่ากับพ่อแม่
กระบวน การจัดการสังคมแบบใหม่ทำให้ชีวิตครอบครัวต้องแตกสลาย ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย ทำให้ผู้คนเกลียดชังกัน ทำให้ผู้คนแก่งแย่งแข่งขัน ฆ่าฟันกันเอง ดิฉันมีเพื่อนหลายคนที่ร่วมต่อสู้มาด้วยกัน แทบจะตายแทนกันได้ แต่พอเข้ามาดิ้นรนเอาตัวรอดในสังคมนี้ก็แทบจะฆ่ากันเหมือนกัน
ท่านทั้งหลาย ความสุขของเราก็คือการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพื่อสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในสังคม เราอยู่ไม่ได้ถ้าข้างบ้านเราไฟกำลังลุกไหม้ เราต้องดับไฟของเพื่อนบ้านก่อนที่ไฟจะมาถึงเรา เช่นเดียวกันค่ะ ถ้าเราช่วยคนจนก็คือการช่วยดับไฟ
วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างที่ท่านได้ยินข่าวอยู่คือ การชุมนุมของสมัชชาคนจนจำนวน 20,000 คนที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะนี้เดือนหนึ่งแล้ว ที่เขาอยู่กันอย่างอดทน เราพยายามใช้ความดี เราพยายามใช้อหิงสา เราพยายามใช้สัจธรรม เพื่อที่จะโน้มน้าวจิตใจข้าราชการนักการเมืองที่เป็นผู้แก้ไขปัญหา แต่ยังไม่พอค่ะ ท่านทั้งหลายที่นั่งอยู่ที่นี้จะต้องเป็นกำลังใจจะต้องส่งเสียงเรียกร้อง ให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้คนเหล่านี้ เพราะถ้าชาวบ้านเหล่านี้ช่วยตัวเองได้ ผลสะท้อนกลับมาสู่ตัวท่านมีมากมายมหาศาล
เรา กำลังต่อสู้เพื่อที่จะให้ชาวบ้านเป็นผู้รักษาป่า เรากำลังต่อสู้คัดค้านความคิดที่ว่าคนอยู่กับป่าได้ มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ และมนุษย์ที่อยู่กับธรรมชาติได้ดีที่สุดก็คือมนุษย์ที่อยู่ในชนบท มนุษย์ที่ทำการเกษตร พวกเขาจะช่วยพวกเราดูแลแม่น้ำลำธาร ภูเขา ป่าไม้ หรือเราจะยอมให้ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ตกไปอยู่ในมือของเจ้าหน้ารัฐอีก ไม่กี่คนอีกต่อไป
เรายังจะไว้วางใจการจัดการในอดีตที่ผ่านมาอีกหรือ ถึงเวลาแล้วที่พวกเราควรจะทบทวนเรื่องนี้ รัฐบาลนั้นไม่ฟังเสียงของคนจนหรอกค่ะ แต่ถ้าพลังของคนจนมีพลังของท่านสนับสนุน รัฐจะหันมาฟังค่ะ ดังนั้น การช่วยพี่น้องที่ยากจนขาดการพัฒนาของรัฐ ไม่ใช่ยากจนจากบุญทำกรรมแต่ง คือการช่วยเหลือพวกเราทั้งหลายเองในอนาคตด้วย
สุด ท้ายนี้ ดิฉันคงพอตอบคำถามท่านทั้งหลายได้ว่าทำไมถึงต้องช่วยคนจน ดิฉันได้แต่ภาวนาว่าการต่อสู้ของคนยากคนจนเหล่านี้จะได้รับความสำเร็จบ้าง เพราะวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นทุกขณะทุกวินาทีที่พวกเรานั่งอยู่ในที่นี้มันจะ ร้ายแรงขึ้นทุกวัน ถ้าคนเป็นหมื่นเป็นแสนครอบครัวไม่มีที่ทำกิน จะเกิดอะไรขึ้น คนเป็นหมื่นเป็นแสนไม่มีข้าวที่จะให้ลูกหลานเขากิน จะเกิดอะไรขึ้น
ดิฉันก็ คงขอสรุปคำพูดของดิฉันเองแต่เพียงเท่านี้ และขอขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ของดิฉันเองที่ได้ให้ชีวิตที่มีความสุขพอสมควร ขอบคุณเพื่อนกัลยาณมิตรทั้งหลายที่เป็นกำลังใจอยู่เบื้องหลังตลอดเวลา ขอบคุณพี่น้องคนจนที่ให้ความอบอุ่นเหมือนดิฉันเป็นครอบครัวเดียวของท่าน และในวันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการรำลึกถึงคุณโกล คีมทอง ผู้เป็นแบบอย่างที่ดีเลิศของสามัญชน ขอให้พวกเราช่วยกันเคารพด้วยการยืนขึ้นหนึ่งนาทีค่ะ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000145328
ความคิดเห็นที่ 43 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ที่จริงอยากจะเก็บความเสียใจนี้อย่างเงียบๆ เหมือนที่เคยมีให้กับมิตรสหายที่จากไปในเขตป่าเขา ในเมือง
แต่มาอ่านเจอ คห8-11 ก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามาแสดงความรู้สึก
การจากไปของคนบางคนยิ่งใหญ่และหนักแน่นดังภูผา
แต่การตายไปของบางคนมีค่าน้อยกว่าเศษเถ้าธุลี
ผาจิ
ความคิดเห็นที่ 42 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เพราะประเทศเรามีคนแบบ คห.8 และ 20 อยู่ไม่น้อยนี่แหละ ทำให้การข่มเหงคนยากคนจนจึงเป็นไปได้ และบ้านเมืองจึงวิกฤตอย่างที่สุดอยู่เช่นนี้
กังหันลม
ความคิดเห็นที่ 41 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
We will not forget you....Vanida, the great woman.
Mark Montri,ND.,PhD.
ความคิดเห็นที่ 40 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ถ้าแก้ปัญหาคนจนไม่ได้ ประเทศเจริญไม่ได้
ความ ยากจนเป็นปัญหาพื้นฐานของประเทศ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ประสิทธิภาพและทิศทางการพัฒนาประเทศ ความยุติธรรม และศีลธรรมพื้นฐานของสังคม ถ้าแก้ปัญหาความยากจนไม่ได้ ประเทศจะจมปลักติดขลุกขลักพัลวัน ไม่สามารถหลุดไปสู่ความเจริญได้
ถ้าคน จนหายจนจะมีกำลังซื้อมาก ก็จะซื้อวิทยุ พัดลม ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ทำให้เศรษฐกิจข้างบนมั่นคง เพราะตั้งอยู่บนฐานที่แข็งแรง ที่แล้วมาเราพัฒนาทำให้คนข้างบนมั่งคั่ง ด้วยคิดว่าความมั่งคั่งจากข้างบนจะกระเด็นลงข้างล่าง(trickle down) ซึ่งพิสูจน์กันมาแล้วว่าไม่จริง เพราะช่องทางระหว่างคนจนกับคนรวยถ่างมากขึ้นๆ ไม่มีแคบลงเลย ฉะนั้นจึงควรเปลี่ยนแปลงแนวทางการกัฒนาเสียใหม่
จากการมุ่งสร้างความร่ำรวยไปสู่การมุ่งแก้ความยากจน
การ สร้างความร่ำรวยทำให้ไปเอาของคนส่วนใหญ่มาให้คนส่วนน้อย ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำลายสังคม ทำลายวัฒนธรรม และสร้างความอยุติธรรมในสังคม ทำให้สังคมทั้งหมดวิกฤติ
การแก้ความยากจนมุ่งแก้ปัญหาคนส่วนใหญ่ ทำให้เศรษฐกิจของคนส่วนน้อยมั่นคง ต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การสร้างความเข้มแข็งของสังคม การใช้วัฒนธรรมเป็นฐานของการพัฒนา การสร้างความยุติธรรมในสังคม ทำให้สังคมทั้งหมดมั่นคง
ความรวยและความจน ก็เหมือนกับความสุขและความทุกข์ ถึงจะเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน คือถ้าสุขมากก็ทุกข์น้อย ถ้าทุกข์มากก็สุขน้อย ก็จริง แต่ยุทธศาสตร์สร้างสุขกับยุทธศาสตร์แก้ทุกข์มีความหมายต่างกันเยอะ พระพุทธศาสนาเลือกข้างแก้ทุกข์ แต่ฝรั่งเลือกข้างสร้างสุข หรือการพัฒนาแบบสร้างความร่ำรวยซึ่งนำไปสู่ปัญหาต่างๆมากมาย ยุทธศาสตร์แก้ความยากจนก็เหมือนมรรควิธีทางพุทธที่เลือกทางแก้ทุกข์ นั้นแล ถ้าทุกข์หมดก็สุข แต่พอสร้างสุข มันเกิดการแย่งชิงกันขนานใหญ่
การแก้ทุกข์นำไปสู่การร่วมมือกัน การสร้างสุขนำไปสู่การแย่งชิงกัน
ฉะนั้นควรทำความเข้าใจว่า ยุทธศาสตร์การสร้างความร่ำรวยกับยุทธศาสตร์การแก้ความยากจนนั้น แตกต่างกันมาก
ถ้า แก้ปัญหาความยากจนได้ก็เท่ากับแก้ปัญหาทั้งหมดของประเทศได้เบ็ดเสร็จ ยุทธศาสตร์แก้ความยากจนจึงควรเป็นยุทธศาสตร์ใหญ่ที่สุดในการพัฒนาประเทศ
ปัญหาเชิงโครงสร้าง 10 ประการ ที่ทำให้คนจน จน
การ จะทำอะไรให้ได้ผลต้องเริ่มด้วยสัมมาทิฐิหรือความเห็นถูก ถ้าเริ่มต้นด้วยสัมมาทิฐิ สิ่งที่ตามมาคือสัมมาปฎิบัติ แต่ถ้าเริ่มต้นเป็นมิจฉาทิฐิหรือความเห็นผิด สิ่งที่ตามมาก็คือมิจฉาปฏิบัติ ทำให้แก้ปัญหาไม่ได้
ประเทศไทยสั่งสม ความเห็นผิดเกี่ยวกับคนจนมานาน ว่าเกิดมาเป็นคนจน เพราะเวรกรรมที่ทำไม่ดีไว้แต่ชาติปางก่อน หรือเป็นคนไม่ดี เป็นคนทำบาปกรรมไว้ เมื่อคิดอย่างนั้น วิธีแก้ปัญหาก็คือมุ่งสั่งสอนให้คนจนทำตนเป็นคนดี โดยไม่คิดแก้ไขโครงสร้างหรือกลไกในสังคมที่เอาเปรียบคนจน หรือทำให้คนจนจน ในสังคมไทยมีโครงสร้างที่ใหญ่เบ้อเร่อเบ้อร่าที่ทำให้คนส่วนใหญ่ยากจน ถ้าไม่เข้าใจและแก้ไขโครงสร้างที่ว่ามานี้ จะแก้ไขความยากจนหรือแก้ไขปัญหาของคนจนไม่ได้
โครงสร้างทางสังคมที่ทำให้เกิดความยากจนมีอย่างน้อย 10 ประการดังนี้
1. ทรรศนะเกี่ยวกับคนจน ทรรศนะหรือทิฐิของสังคมเป็นโครงสร้างของสังคมที่ลึกที่สุด สังคมไทยถูกหล่อหลอมกันมาให้เป็นสังคมที่เกลียดคนจน ลองดูสำนวนและคำอวยพรต่อไปนี้ "รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา" "ขอให้ได้เป็นเจ้าคนนายคน" "ขอให้ได้นั่งกินนอนกิน"
ในความเป็นจริง การหามเสาหรือการทำงานหนักไม่ใช่ความชั่ว แต่เป็นความดี การนั่งกินนอนกินไม่ดี เป็นการเอาเปรียบคนอื่น คนเราต้องทำงานเพื่อให้พึ่งตนเองได้และช่วยเหลือผู้อื่นจึงจะดี สังคมไทยเป็นสังคมที่คนข้างบนเอาเปรียบคนข้างล่าง และพยายามสร้างความชอบธรรม ให้แก่การกระทำนั้น ซึ่งหล่อหลอมมาเป็นการดูถูกเหยียดหยามคนจน
ลูกคนจนที่เคยช่วยพ่อแม่หาบ กระบุงตระกร้า พอเข้าโรงเรียนไปสักพักหนึ่ง ก็อายที่จะเดินกับพ่อแม่ซึ่งยากจนกระรุ่งกระริ่ง แสดงว่าโรงเรียน จะโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เป็นที่หล่อหลอมให้รังเกียจความยากจน
คนจนจะ ต้องทำงานต่ำ มีรายได้น้อย เสี่ยงภัยสูง ถ้าทำผิดจะถูกลงโทษรุนแรงกว่าคนรวย ฯลฯ ความเกลียดคนจนในสังคมไทยยังนำไปสู่ปรากฎการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม กฎหมาย และอื่นๆอีกมากมาย ลองจับประเด็นและลองทำ"แผนที่ความคิด"ต่อๆไป จะเห็นอะไรต่อมิอะไรตามมามากมาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องศีลธรรมพื้นฐาน ศีลธรรมพื้นฐานคือการเคารพคุณค่า ศักดิ์ศรีความเป็นคนของคนทุกคน โดยเฉพาะของคนเล็กคนน้อย คนยากคนจน ถ้าปราศจากศีลธรรมพื้นฐาน ประเทศเจริญไม่ได้
สังคมไทยขาดศีลธรรมพื้นฐานนี้ และนี่เป็นโครงสร้างทางสังคมที่ลึกที่สุด ที่ต้องการการแก้ไข ถ้าจะแก้ปัญหาคนจนให้ได้
2. โครงสร้างทางกฎหมาย กฎหมายทำให้คนจนเสียเปรียบ ให้อำนาจต่อคนรวยและรัฐที่จะทำกับคนจนมากกว่า กฎหมายเป็นโครงสร้างที่มีอำนาจและรุนแรงมาก จำเป็นต้องมีการปฏิรูปกฎหมายเพื่อคนจน
3. โครงสร้างการใช้ทรัพยากร ชาวบ้านต้องมีที่ดินทำมาหากิน มีป่าไม้ มีแหล่งน้ำ รัฐไปรวบเอาสิทธิในทรัพยากรของชุมชนซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติในฐานะที่เกิดมา เป็นมนุษย์มาเป็นของรัฐ และจัดสรรการใช้ที่เอื้อประโยชน์ต่อคนรวยมากกว่าคนจน การปฏิรูปการใช้ทรัพยากรอย่างเป็นธรรม จึงเป็นเรื่องใหญ่ในการแก้ปัญหาของคนจน
4. ระบบการศึกษา ระบบการศึกษาเป็นการเอาเงินของคนทั้งประเทศ ไปสร้างระบบการศึกษาที่ต้อนคนทั้งหมดเข้าไปรับใช้รัฐ รับใช้ธุรกิจ และรับใช้ต่างประเทศที่เอาเปรียบไทย ไม่ทำให้คนยากจนแข็งแรง พึ่งตนเองได้ ระบบการศึกษาแบบนี้มีส่วนซ้ำเติมคนยากคนจน และแก้ปัญหาไม่ได้ จำเป็นต้องมีการปฏิรูปการศึกษาเพื่อแก้ความทุกข์ยากของคนทั้งแผ่นดิน
5. ระบบการธนาคาร ระบบการธนาคารไปเอาเงินของคนทั่วทั้งประเทศมาให้คนส่วนน้อย ซึ่งอาจเป็นญาติ เป็นพรรคพวก เป็นผู้มิอิทธิพล ใช้เพื่อทำกิจการแบบที่เอาเปรียบคนส่วนใหญ่ ไม่ได้สร้างเศรษฐกิจจริง ทำให้การเงินและเศรษฐกิจพัง แล้วก็ต้องเอาเงินของประชาชนไปค้ำจุนอีก นี้เป็นโครงสร้างใหญ่อีกโครงสร้างหนึ่งที่ทำให้คนจนไม่หายจน ควรจะมีระบบการเงิน ที่เอื้อต่อคนจนและชุมชน
6. ระบบการสื่อสาร การสื่อสารใช้เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ล้างสมองให้คนเกิดวัฒนธรรมบริโภคนิยม มากกว่าที่จะทำให้เกิดปัญญาพึ่งตนเองได้ โดยมีผู้ได้กำไรอย่างมโหฬารจากระบบสื่อสารแบบนี้ เป็นโครงสร้างที่เอาเปรียบและทำลายสังคมอย่างรุนแรง ควรมีการปฏิรูปสื่อเพื่อสังคม
7. ระบบราชการ ระบบราชการเป็นระบบรวมศูนย์อำนาจ มีความตั้งใจน้อย มีความรู้น้อย มีการใช้อำนาจมาก มีคอรัปชั่นมาก แก้ปัญหาของคนยากจนไม่ได้ แต่ซ้ำเติมให้คนจนต้องย่ำแย่ลงไปอีก ความจริง ราชการมีกำลังเหลือเฟือ เกินพอที่จะแก้ปัญหาคนจนทั้งประเทศ แต่ต้องการการปฏิรูประบบ โดยเฉพาะระบบการงบประมาณ
8. การกำหนดนโยบายและทิศทางการพัฒนาประเทศ นโยบายและทิศทางการพัฒนาประเทศ เป็นโครงสร้างใหญ่ที่กระทบหมดทุกคน ที่แล้วมา นโยบายและทิศทางการพัฒนาประเทศ กำหนดโดยคนที่มีอำนาจ คนมีเงิน และคนขาดความเข้าในแผ่นดินไทย ทำให้เกิดทิศทางการพัฒนาประเทศที่ไปเอาของคนส่วนใหญ่ และทรัพยากรธรรมชาติมาเป็นเงินหรือความร่ำรวยของคนส่วนน้อย เป็นยุทธศาสตร์การสร้างความร่ำรวย ไม่ใช่ยุทธศาสตร์การแก้ความยากจน ดังกล่าวแล้ว ทำให้ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยห่างมากขึ้น จำเป็นต้องตั้งทิศทางการพัฒนาประเทศใหม ่เพื่อแก้ความยากจน
9. ระบบการเมือง เมื่อโครงสร้างของสังคมทั้งหมดเป็นไปตามข้อ 1 ถึง 8 ข้างต้น โครงสร้างนั้นก็คลอดหรือให้กำเนิดระบบการเมืองที่เป็นตัวแทนของผู้เอา เปรียบสังคม มีการใช้เงินซื้ออำนาจ แล้วเอาอำนาจนั้นไปหาเงินอย่างมโหฬาร ระบบการเมืองอย่างนี้ แก้ปัญหาความยากจนไม่ได้ จึงจำเป็นต้องปฏิรูปการเมือง แม้มีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ออกมาแล้ว สังคมก็ต้องเคลื่อนไหวเพื่อปฏิรูปการเมืองต่อไป
10. สังคมอ่อนแอ โครงสร้างทั้ง 9 ประการข้างต้นเป็นโครงสร้างที่แข็งแกร่งสุดประมาณ ที่จะทำให้คนจนไม่หายจน มีสิ่งเดียวที่จะปรับโครงสร้างนั้นได้คือสังคมเข้มแข็ง อันได้แก่การรวมตัวร่วมคิดร่วมทำให้มีพลังเข้าใจปัญหา สื่อสารปัญหา รู้วิธีแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่แล้วมารัฐพยายามทำให้สังคมอ่อนแอ ไม่ส่งเสริมการรวมกลุ่ม ดูถูกการรวมกลุ่ม มีการเรียกว่าม๊อบบ้าง แก๊งข้างถนนบ้าง ไม่ยอมรับรองสิทธิของชุมชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้เกิดความยากลำบากในการสร้างองค์กรและการเงินชุมชน
รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปการเมืองจึงเป็นรัฐธรรมนูญที่ส่งเริมสังคมเข้มแข็ง อันเป็นความพยายามอย่างหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาโครงสร้าง
โครง สร้างทั้ง 10 ประการที่กล่าวมาแล้ว เป็นโครงสร้างอันทะมึนที่กำหนดให้คนจนต้องจน และไม่หายจน สังคมไทยจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง หรือมีสัมมาทิฐิว่าความยากจนนั้น เกิดเพราะโครงสร้างของสังคมกระทำ เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างทางสังคม ต้องการการแก้ไขเชิงโครงสร้างหรือปฏิรูปโครงสร้างทางสังคม จึงจะแก้ปัญหาของคนจนได้
วิธีทำงานเพื่อแก้ปัญหาความยากจน
ในเมื่อ ปัญหาความยากจนเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ใหญ่และลึกมาก จึงเป็นเรื่องยากสุดในการแก้ไข แก้ไม่ได้ด้วยวาทะและเกมทางการเมือง ทุกฝ่ายควรจะเข้ามาทำความเข้าใจ และหาทางแก้ปัญหาที่ยากนี้ ขอเสนอทางแก้ดังต่อไปนี้
1. รณรงค์สร้างความเข้าใจในสังคมให้มากที่สุดว่าความยากจนเป็นปัญหาเชิงโครง สร้างทางสังคม 10 ประการ ด้งกล่าวข้างต้น และจำเป็นต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
2. ประชาชนรวมตัวร่วมคิดร่วมทำให้มากที่สุดในทุกระดับและทุกเรื่อง เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและผลักดันนโยบายเพื่อคนจน การรวมตัวร่วมคิดร่วมทำในทุกระดับชุมชนสร้างเศรษฐกิจชุมชน จะทำให้หายจน คนอีสานทั้งประเทศควรรวมตัวกันแก้ปัญหาของคนอีสาน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมพร้อมกัน ถ้าอีสานหายจน ประเทศจะหายจน รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ก็ดี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแผนที่ 8 และที่ 9 ก็ดี แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงก็ดี แนวทางคณะกรรมการนโยบายสังคมแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานก็ดี ล้วนส่งเสริมการรวมตัวร่วมคิดร่วมทำของชุมชนท้องถิ่น ประชาชนควรรวมตัวกันมากขึ้น และรัฐควรส่งเสริมการรวมตัวของประชาชนให้มากขึ้น การรวมตัวนี้ควรผลักดันนโยบายเพื่อคนจนด้วย
3. ปรับยุทธศาสตร์การพัฒนาจากยุทธศาสตร์การสร้างความร่ำรวย มาเป็นยุทธศาสตร์การแก้ความยากจน
4. ส่งเสริมการวิจัยเรื่องโครงสร้างของความยากจน และสร้างความรู้ในการแก้ไขโครงสร้างให้ชัดเจนโดยรวดเร็ว รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)ก้อนใหญ่ เพื่อเปิดแผนงานการวิจัยเรื่องความยากจน
5. มีองค์กรที่จะผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างแก้ความยากจนไปสู่ความสำเร็จ ควรมีกรรมาธิการเรื่องความยากจนทั้งของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ภาคเอกชนควรจัดตั้งสภาเพื่อคนจน แต่ก็ไม่เพียงพอเพราะ การที่จะแก้ไขโครงสร้างของสังคมเพื่อแก้ปัญหาความยากจนนี้ยากสุดกำลัง เกือบทำไม่ได้ในยามปกติ ฝ่ายการเมืองเองก็ทำไม่ได้ ควรมีการออก พรบ. ตั้งสภานโยบายเพื่อแก้ปัญหาความยากจนทำนองเดียวกับสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเคลื่อนไหวในการปฏิรูปโครงสร้างที่ทำให้คนจนจน
6.ทำให้"นโยบาย เพื่อคนจน"เป็นประเด็นทางการเมือง ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้ง สส. ครั้งต่อไป ควรมีการถามพรรคการเมืองว่า "
1. พรรคของท่านมีนโยบายเพื่อคนจนหรือไม่
2. พรรคของท่านมีเจตจำนงในการปฏิรูปโครงสร้างทางสังคม 10 ประการ ตามที่กล่าวในบทความนี้หรือไม่
3. พรรคของท่านจะผลักดันออก พรบ. จัดตั้ง "สภานโยบายเพื่อแก้ปัหาความยากจน"หรือไม่
ถ้า มีพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งตอบรับ สื่อมวลชนควรถามพรรคอื่นๆต่อไป จน"นโยบายเพื่อคนจน"กลายเป็นประเด็นทางการเมือง เมื่อเป็นประเด็นทางการเมืองแล้วก็จะหยุดไม่ได้ กระบวนการทางสังคม และการเมือง จะขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เดินหน้าต่อไป ทำนองเดียวกันกับการขับเคลื่อนเรื่องรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปการเมือง จนกว่าจะบรรลุความสำเร็จในการแก้ปัญหาความยากจน
เพื่อนคนไทยครับ ปัญหาความยากจนเป็นปัญหาทางศีลธรรมพื้นฐานของประเทศ ที่ถ้าไม่แก้ไข ประเทศจะเจริญไม่ได้ คนไทยควรจะทำความเข้าใจว่าความยากจนไม่ได้เกิดจากเวรกรรมแต่ชาติปางก่อน แต่เกิดจากโครงสร้างที่อยุติธรรมในสังคม ต้องทำความเข้าใจโครงสร้างนี้และช่วยกันปฏิรูปโครงสร้างที่ทำให้คนจนจน ถ้าแก้ปัญหาความยากจนได้ ก็เท่ากับแก้ปัญหาได้หมดทุกเรื่อง ประเทศไทยจะได้ก้าวไปสู่ความเจริญอย่างแท้จริง
เราคนไทยทุกคนต้องช่วยกันเปลี่ยนทัศนคติและวิธีคิดกันใหม่ครับพื่อลูกหลานของเราทุกคนครับ
bluesman
ขอคาระวะดวงวิญญาณอันยิ่งใหญ่
ความคิดเห็นที่ 39 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เสีนดาย เสียใจแทนประเทศไทยจริงๆคนดีๆอย่างคุณวณิดาดาหายาก คนดีที่ทำเพื่อคนจนขาดโอกาศ คนดีที่ไม่มองปัญหาแค่ส่วนเดียวแต่คุณวณิดามองเป็นองค์รวม และมองเป็นปัญหาสำคัญของชาติ แต่น่าแปลกใจที่รัฐบาลและคนชั้นกลางในเมืองเพิกเฉยตลอดมา อุดหนุนนายทุนตกเป็นทาสทุนนิยม
เป็นคนที่ดีมาก
ความคิดเห็นที่ 38 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เมืองไทยนั้นขาดแคลนคนอย่างวนิดาอย่างมาก คนที่ทำเพื่อคนจน คนที่ถูกคนรวย และรัฐเอาเปรียบ กล้าหาญ เปิดโปงคนเลว (ก็เลยยังมีคนที่แค้นเธออยู่) การกระทำของเธอ การใช้ชีวิตของเธอนั้น แม้จะสามารถอยู่อย่างสุขสบายแต่เธอก็เดินตามในสิ่งที่เธอเชื่อ คืออยู่อย่างลำบากกับคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือคนเหล่านั้น
คน เช่นนี้หากเกิดในต่างประเทศ ป่านนี้ ได้รับการยกย่อง เทิดทูน ได้รับรางวัลระดับโลกไปนานแล้ว แต่เธอเกิดในไทย ต่อสู้ในประเทศไทย ดินแดนที่ไม่มีที่ว่างสำหรับคนจน และคนมีอุดมการณ์เพื่อสังคมที่เท่าเทียม
ขอกราบคารวะในความกล้าหาญ ความยึดมั่นในความดีและการอุทิศตัวเพื่อคนอื่นอย่างแท้จริง
ตำนานสตรีอย่างคุณคงเป็นหนึ่งเดียวของไทยจริงๆ
พิม
ความคิดเห็นที่ 37 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
คนในนี้บางคนก็ต่ำทั้งการกระทำและจิตสำนึก
ค.20 น่าดีใจแทนรัฐไทยที่ล้างสมองคุณได้สะอาดเอี่ยมจนเหลื่อแต่ความว่างเปล่าใน กะโหลก คุณถึงได้เชื่อสุดหัวใจว่ารัฐ = ชาติ = ความถูกต้อง
ค. 27 คุณไม่รู้จริงๆหรือว่ารัฐ = นายทุน
Cheers
ความคิดเห็นที่ 36 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ในสนามรบ ศพของศัตรูยังได้รับการยกย่อง
แต่กับลิ่วล้อทรราชเหลี่ยมมีนใช้ความตายของสหายมาระบายอารมณืและความพ่ายแพ้ของมัน
คนแก่
ความคิดเห็นที่ 35 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ทรราชถนอมใช้เวลาสองสามวัน ปิดถนนราชดำเนิน.........................มันก็เปิดไปเมืองนอก
ทรราชสุจินดาใช้เวลาหกเจ็ดวันปิดถนนราชดำเนินและถนนหน้ารามฯ..........................................................มันก็ยอมแพ้
ทรราชเหลี่ยมปิดถนนราชดำเนินมาเกือบปี "ใช้ทหารเอาปืนมาไล่" มันก็ยังไม่ไป
นับวันสายพันธ์ทรราชก็เก่งขึ้นปรับตัวดีขึ้นแล้วฝ่ายประชาชนละปรับตัวบ้างหรือเปล่า
คนแก่
ความคิดเห็นที่ 34 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เสียใจยิ่งที่ ผู้ที่ต่อสู้เพื่อคนจนต้องจากไปอีกคน ขอให้ไปสู่สุคติค่ะ
chiangmai J
ความคิดเห็นที่ 33 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
สู่สุขคติเถิด วนิดา เธอเป็นผู้เสียสละและกล้าหาญมากๆ (เกลียดนักการเมืองหน้าตัวเมีย)
คนจริงใจ
ความคิดเห็นที่ 32 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ขอกราบคารวะกับดวงวิญญานคุณวนิดาหรือคุณมด คนอย่างนี้แหละที่โลกต้องการ โดยเฉพาะเมืองไทยที่ขาดแคลนอย่างรุนแรง ไม่ได้รู้จักคุณวนิดาแต่อย่างใดแต่เคยไปฟังแกพูดที่งานแห่งหนึ่ง ซาบซึ้งในความจริงใจที่มีต่อผู้ถูกกดขี่อย่างยิ่ง ไม่รู้นายกเสี่ยแอ๊ดจะได้เรียนรู้จากสิ่งที่คุณมดได้ทำไว้ให้แก่แผ่นดินนี้ หรือเปล่า เธอดูจะพูดน้อยแต่ทำจริง กล้าในสิ่งที่คนไทยกลัว กล้าที่จะท้าท้ายอำนาจรัฐที่พิกลพิการที่หนุ่มอกสามศอกยังไม่กล้า เธอคือราชนีแห่งผู้ถูกกดขี่ ถูกรังแกจากผู้มีอำนาจ ขอสดุดีความดีความงามที่คุณมดมอบให้กับโลกใบนี้และประเทศไทย
oohaysit@yahoo.com
ความคิดเห็นที่ 31 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
คห.20 น่าไปมีบ้านตรงเขื่อนนะ555
จะได้เสียสละเพื่อชาติดูบ้าง
.
ความคิดเห็นที่ 30 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
คุณ วณ ปากนัง เขียนบทกลอนได้ดีมากครับ
ขออาลัยคุณวนิดาด้วยเช่นกัน
แก่นเพชร
ความคิดเห็นที่ 29 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
คนที่ปวดแสบปวดร้อนกับมดก็มีที่ถูกเธอเปิดแผลออกมาในระหว่างช่วงชีวิตอันงด งามที่เหลืออยู่ของเธอ ด้วยความดีของเธอหลายคนในนี้ปกป้องเธอจนถึงที่สุดด้วยเช่นกัน
ก.ไก่ กาญจนบุรี
ความคิดเห็นที่ 28 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
วนิดาหรือมด มีปริญญา ไต่เต้าเพื่อหาความสบายใส่ตนได้ถ้าเลือกเส้นทางนั้น แต่ไปช่วยคนจน อยู่กับคนจน และตายอย่างคนจน ผิดกับนักการเมืองและนักกินเมืองทั้งหลายที่ดีแต่หาเสียงกับคนจน หลอกลวงและมอมเมาคนจน ไม่ต้องการให้คนจนฉลาด และมีโอกาสได้รับการศึกษา เพื่อจะได้หากินได้ และไม่กลายเป้นคนจน ไม่เคยช่วยเหลือหรือไปใช้ชีวิตอย่างคนจนจริง ความจนเป็นบาปของสังคม เป็นความชั่วร้ายที่ต้องกำจัด รัฐบาลของทุกประเทศทั่วโลกล้วนมีวาระขจัดความยากจนทั้งสิ้น รวมทั้งองค์การสหประชาชาติ วนิดาอุทิศชีวิตให้คนจนมาตลอดชีวิตจนไม่มีเวลาดูแลรักษาสุขภาพของตนทั้งๆ ที่พี่น้องล้วนร่ำรวยทั้งนั้น น่าจะได้รางวัลโนเบล หรือ รางวัลบุคคลดีเด่นของยูเนสโกด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะยอมเสนอคนดีๆอย่างนี้ ขอยกย่องเธอด้วยใจจริง และให้ไปสู่สุคติด้วย เทอญ
คนไม่จน
ความคิดเห็นที่ 27 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
วนิดาต่อต้านการกระทำของรัฐ แต่ไม่เคยต่อต้านการกระทำของนายทุนเลย รัฐต้องเสียประโยชน์ไปเท่าไหร่ มีใครเคยเห็นวนิดาต่อต้านนายทุนบ้างไหม...
คนจริง
ความคิดเห็นที่ 26 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
*ขอมอบแด่ “วนิดา” ผู้กล้าสู้
หมายเชิดชู วิถีชน คนชั้นล่าง
นำเรียกร้อง ป้องกันสิทธิ์ คิดหาทาง
ให้อยู่อย่าง ปติสุข ไม่ทุกข์ใจ
*ที่ทำมาหากินถิ่นปู่ย่า
มีข้าวปลาสมบูรณ์แม่มูลให้
พอเขื่อนมาพาชีวิตผิดแผกไป
วิถีชนสั่นไหวไม่มั่นคง
*การต่อสู้เพื่อคนจนคนชั้นล่าง
ไม่เคว้งคว้างในความคิดจิตประสงค์
แม้ชีวิตสิ้นไปใฝ่ดำรง
หวังมั่นคงคนชั้นล่างอย่างจริงใจ
*ขอเชิดชู “วนิดา” ผู้กล้าแกร่ง
ไม่เคยแล้งศรัทธาฟ้าแจ่มใส
แม้ชีวิตล่วงลับดับลงไป
ยังคงไว้ซึ่งความดี..สีสวยงาม
ว ณ ปากนัง
ความคิดเห็นที่ 25 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ด้วยความนับถือจากหัวใจ
หมาไทย
ความคิดเห็นที่ 24 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เมื่อ ก่อนสมัยเป็นนักศึกษา เราเคยเห็นใจคนยากจนเสมอ คิดว่าคนยากจนเป็นบุคคลที่น่าสงสาร ควรให้ความช่วยเหลือ คิดว่าพวกนายทุน ศักดินา ทหาร เป็นพวกเอาเปรียบคนยากจน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เราโตขึ้น เราได้เห็นความจริงในหลายๆมุมของต่างชนชั้น จน ถึงบัดนี้ เรารู้เพียงว่า ชะตาชีวิตของแต่ละคนเป็นไปตามกรรมทั้งชาติไหนๆ และที่ผ่านมาในชาตินี้ ทุกคนจะต้องรับผลกรรมของตนเอง คนจนไม่ใช่คนดี และคนรวยก็ไม่ใช่คนเลว ในความสกปรก ก็มีความสะอาด ในความสะอาดก็มีความสกปรก ปะปนกันอยู่เสมอ
จงอยู่ในโลกของความจริง
ใจหายเมื่อรู้ว่าเธอจากไป
ความคิดเห็นที่ 22 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ขอแสดงความนับถือ
พฤษภกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา
รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
ความคิดเห็นที่ 21 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของหญิงนักสู้
ชีวิตที่เรียบง่าย การต่อสู้เคียงข้างคนจน
การทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
อุดมการณ์ที่บ่มเพาะและฝังรากลึกในหัวใจให้แข็งแกร่ง
โรคร้ายได้พรากเธอไป
ช่างโหดร้ายสิ้นดี เพราะคนจนที่กำลังโดดเดี่ยว
จะยิ่งโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น เราเหลือคนต่อสู้เพื่อคนจนน้อยลง ได้แต่หวังว่า ความสูญเสียนี้จะทำให้ผู้คนได้คิด
และช่วยสานต่อภารกิจที่หนักอึ้งนี้ของเธอ
อย่างน้อย สำหรับเรา... ก็ยังต้องหยุดคิด ทบทวน
และตัดสินใจเพื่อร่วมสานฝัน
... เหนื่อยมามากแล้ว พักผ่อนเถอะนะ
หมู
ความคิดเห็นที่ 20 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ผมไม่รู้จักคุณวนิดาเป็นการส่วนตัวหรอก แต่จากพฤติกรรม การเป็นคนไทยย่อมอยากจะเห็นประเทศชาติ สงบและเจริญรุ่งเรือง แต่เธอกลับทำในทางตรงกันข้าม ในอดีตเข้าป่ารบกับคนไทยในป่า ออกจากป่ารัฐบาล โดยพระราชดำริ จะสร้างเขื่อนเพื่อให้ชาติไทยเราไม่ต้องเป็นขี้ข้าใครโดยหมดเงินไปกับค่า น้ำมันเชื้อเพลิง ในการปั่นกระแสไฟฟ้า และมีน้ำไว้ให้เกษตกรไว้เพาะปลูก
แต่ อะไรที่เป็นความเจริญของประเทศชาติ เธอขวางมันหมด ไม่เลือกฟ้าต่ำแผ่นดินสูง ประเทศจะเป็นอย่างไรช่างมัน ขอเอาความสะใจของเธอย่างเดียว ไม่ทราบจริงๆว่าเธอมีความแค้นใด ถึงทำกับประเทศชาติเราได้ถึงปานนี้
อย่างไรก็ตาม มันจบไปแล้วหละ ขอวิญญาณเธอสู่สุคติ
ชาติหน้ามีจริง มาช่วยกันสร้างชาติให้เจริญเถิดครับ
คนเถื่อน
ความคิดเห็นที่ 19 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ความเห็น 9, 10, 11 อย่าทับถมอีกเลย ไหนๆ คนก็ตามไปแล้ว และลองมุมกลับถ้าไม่มีคุณวนิดา การช่วยเหลือคนจนโอกาสในการเรียกร้องสิทธิในสังคมก็จะไม่มี คนจนไม่ได้จนที่เงิน แต่เข้าจนที่โอกาส จนความรู้เพราะไม่เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร จนเพราะขาดโอกาส และที่สำคัญจนเพราะพรรคราชการไปส่งเสริมเขาผิดแบบ ส่งเสริมการเกษตรแต่ไม่ทำตลาดให้ เพราะเขาบอกว่าไม่ใช้หน้าที่หน้าที่เข้าเพียงส่งเสริมตามนโยบายรัฐ ของขายไม่ได้ราคาตกขาดทุนเป้นหนี้ จนดักดาน นโยบายรัฐผิดพลาด รัฐไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเลย ตราบใหถ้ายังไม่เปลี่ยนนโยบายรัฐสร้างโอกาสให้คนที่จนเป็นคนที่ยืนด้วยขาตน เองโดยการให้เข้ารวยโอกาส รวยการถึงข้อมูลข่าวสาร การส่งเสริมจากาภาครัฐที่ถูกต้องตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง คนจนก็จะลดลงแน่นอน
111
ความคิดเห็นที่ 18 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ชอบประโยคข้างล่าง
"แต่ ดิฉันคิดว่าความยากจนน่าจะเกิดมาจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกรังแกและขาดโอกาส มีบางคนบอกว่า ไม่มีความยากจนถ้าพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ แต่ดิฉันขอเสริมว่า ไม่มีความทุกข์ยาก ถ้ามีความยุติธรรม "
Som/wpree@hotmail.com
ความคิดเห็นที่ 17 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ที่ดินเเถวสุราษฏร์ ซึ่งเป้นป่าสงวน หรือที่ดินสาธารณะ หรือที่ดินที่คนไทย 60ล้านคนร่วมเป็นเจ้าของ ขณะนี้ถูกครอบครองด้วยกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ไม่ทราบว่าได้มาด้วยวิธีที่ถูกกฎหมายหรือไม่ เเล้วได้จ้างเเรงงานราคาถูก((คนพม่า) ปลูกต้นปาล์ม เเละทราบมาว่า ต้นปาล์มนี้เป็นพืชที่กินนำเยอะมาก ต้นปาล์มเคยเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศแถวตะวันออกกลางมาก่อน ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ว่าสาเหตุที่ทำให้ประเทศเเถวตะวันออกกลางเป็นทะเล ทรายทุกวันนี้อาจจะเนื่องมาจากปลูกต้นปาล์ม
wpree@hotmail.com
ความคิดเห็นที่ 16 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ผมอยากขอบคุณ คุณ rongroj (คห 8-11) ที่เป็นเหมือนเครื่องยืนยันอันหนักแน่น ว่าการมีอยู่ของคุณทำให้ผมรู้สึกได้ว่าการสูญเสียคุณวนิดานั้นใหญ่หลวง เพียงใดสำหรับคนอย่างผม
ซาบซึ้ง...ซาบซึ้ง
ความคิดเห็นที่ 15 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ที่สุราษฎร์ ที่ดินป่าสงวน หรือ ที่ดินสาธารณะ หรือ ที่ดินที่คนไทย 60 ล้านคนเป็นเจ้าของ ขณะนี้ถูกครอบครองโดยกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง เเล้วปลูกปาล์ม ทราบมาว่าปาล์มเป็นพืชที่กินนําเยอะมาก เคยเป็นพืชพื้นเมือง ของประเทศแถวตะวันออกกลางมาก่อน ก็เลยอาจจะมีผลให้ตะวันออกกลางเป็นทะเลทรายมาจนปัจจุบันนี้
คนเคยไปสุราษฎร์
ความคิดเห็นที่ 14 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ไม่รู้จักคุณวนิดาฯมาก่อน เเต่เชื่อว่าเธอเป็นคนดีที่น่ายกย่องอย่างยิ่งคนหนึ่ง
เคยมีรุ่นพี่มหา'ลัยเป็นลักษณะเดียวกันกับคุณวนิดานี่เเหละ
สลดใจกับคำวิจารณ์ที่ 8,9, 10,11 เป็นอย่างมาก (คุณ rongroj )
ถ้าคุณไม่รู้จักเธอดีจริง อย่าได้มาดิสเครดิตเเบบพวกลิ่วล้อเลวๆของทักษิณชอบทำกัน
ถ้าคุณวนิดาจะโกง คอรัปชั่นเงินของคนจนอย่างคุณว่า...
เธอคงไม่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับคนจนชั่วชีวิต เพราะมันลำบากมากๆ
คอรัปชั่นวิธีอื่นไม่ดีหรือ ได้เงินเหมือนกัน สบายกว่าด้วย
(อย่างที่เธอเล่าตอนต้น ว่าเคยทำการค้ามาก่อน รู้วิธีทำกำไรได้ดี)
บาปกรรมน่ะมีจริงนะ เที่ยวได้ป้ายสีคนดีๆน่ะ
นรกสวรรค์มีจริง
ความคิดเห็นที่ 13 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
"ความจนเป็นสิ่งที่ทุกคน..รังเกียจ บางคนฆ่าตัวตายเพื่อหนีความจน บางคนฆ่าคนอื่นเพื่อให้ตนพ้นจากความยากจนเช่นกัน.." ผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อแรกพบเธอเราให้ราคาแค่พื้นๆแต่สิ่งที่ทำให้เราต้องถวิล หาก็จากตัวอย่างข้างต้นเพียงเศษเสี้ยวจากแก่นชีวิตของเธอที่เธอพยายามถ่าย ทอดบอกกล่าวให้ผู้คนที่หลับใหลต้องสดุ้งตื่นจากภวังค์ ใจหายนึกไม่ถึง
ก.ไก่ กาญจนบุรี
ความคิดเห็นที่ 12 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
--มนุษย์พยามสั่งสอนเดรัจฉานให้มีจิตใจเป็นมนุษย์(ให้รู้แบ่งปัน ไม่เบียดเบียนกัน) แต่กลับสอนมนุษย์ให้มีจิตใจเป็นเดรัจฉาน(ต้องแกร่งแย่งและเห็นแก่ตัว)สังคม จึงไร้ความสงบสุข--
**ขอร่วมรำลึกถึง "วนิดา ตันติวิทยาพืทักษ์" ผู้จากไป**
.
ความคิดเห็นที่ 10 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
rongrojbkk สมาชิก
ความคิดเห็นที่ 8 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ช่วยถามญาติคุณวนิดาว่าเงินที่เก็บจากการชุมนุมที่เขื่อนสิรินธร,เขื่อนปากมูล และที่อื่นๆอีกหลายแห่งที่เขาเป็นผู้นำ
ท่าน ทราบหรือไม่ว่าเวรกรรมมีจริง เพราะอะไรหรือเพราะคุณวนิดาสร้างความวุ่นวายให้แก่บ้านเมืองแถมยังเบียด เบียนคนจนแต่สร้างภาพว่าช่วยเหลือคนจน แม้กระทั้งเงินค่าเข้าส้วมที่ชายแดนเขายังเอาไปเลย ....โธ่ บุญกับบาปล้างกันไม่ได้แน่นอน
rongroj_135@hotmail.com (rongrojbkk สมาชิก)
ความคิดเห็นที่ 7 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
เคยเห็นหน้ากันบ่อยๆ รู้สึกเสียดายมาก
น่าจะเอาชีวิตนักการเมืองน้ำเน่าพวกหนักแผ่นดินไปแทน
สังคมไทยไม่สิ้นคนดี
ความคิดเห็นที่ 6 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ร่วมไว้อาลัยด้วยคนค่ะ ขอให้ไปสู่สุขตินะคะ เห้นด้วยกับคนวนิดา บ้านฉันอยู่ที่แม่สอดตอนเป็นเด็กป่าไม้เยอะมากๆๆตอนนี้เริ่มหายไปหมดเพราะ นักการเมืองทั้งหลายใช้เส้นสายเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าและครอบครองกรรมสิทธิ์ ในที่ดินไม่รู้โฉนดได้มาอย่างไร...ข้าราชการเมื่อเห็นเงินปากก็ปิด ปัญหาพวกนี้แก้ไม่ได้ค่ะ เพียงเพราะคนบูชาเงินมากกว่าที่จะห่วงแหนสิ่งแวดล้อมเอาไว้ให้ลูกหลาน มอดปลวกต่างก้แทะแกะกินกัน หมดสิ้นที่จะมีสามัญสำนึกที่ดี ...สงสารเธอประเทศไทย...แต่ฉันก็รักเธอมากนะประเทศไทย...จึงต้องกลับไป เยี่ยมแผ่นดินเกิดฉันทุกปี
คนไกลบ้าน
ความคิดเห็นที่ 5 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
"ดิฉันคิดว่าความยากจนน่าจะเกิดมาจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกรังแกและขาดโอกาส มีบางคนบอกว่า ไม่มีความยากจนถ้าพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ แต่ดิฉันขอเสริมว่า ไม่มีความทุกข์ยาก ถ้ามีความยุติธรรม"
Preeda
ความคิดเห็นที่ 4 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ไม่มีใครช่วยเหลือคนจน ยังพอทน แต่คนจนยังถูกหลอก
และใช้เป็นเครื่องมือในการหาอำนาจใส่ตัว แล้วกอบโกย
โกงชาติ อย่างไอ้เหลี่ยมเป็นต้น มันจึงสมควรตาย กลับ
ประเทศนี้เมื่อไหร่ น่ากลัวมันจะไม่รอดแน่ ไม่ได้มาใหญ่
อีกหรอก
คนจนผู้ยิ่งใหญ่
ความคิดเห็นที่ 3 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ความตาย
สวยงามเสมอ
ไม่ว่าคนจน
หรือ
คนรวย
คนขลาด
ความคิดเห็นที่ 2 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
กรุณาอย่าลบเพจนี้ผมอยากจะกลัยบเข้ามาอ่านอีก
sompongui@yahoo.com
ความคิดเห็นที่ 1 คลิกที่นี่หากท่านเห็นว่าความคิดเห็นนี้ขัดต่อกฎ กติกา มารยาท
ขอร่วมรำลึกถึง "วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์" ด้วยครับ คนเราต้องอยู่อย่างไม้ใหญ่ ที่ให้ร่มเงาและที่อาศัยกับผู้อื่นด้วยความยินดี และยั่งรากลึก ต้านทานกระแสลมแรงด้วยความมั่นคง ดีกว่าจะเกิดเป็นหญ้าที่พริ้วไหวตามลมและแสวงหาประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียว
ขอแสดงความเคารพและนับถือ
กล้าไม้ฯ
กล้าไม้ฯ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก