เพื่อชีวิต..ใคร???

วันพุธ, ตุลาคม 25, 2549

จับตาดูหม่อมอุ๋ยกันให้ ดีๆ !

โดย หมายเหตุผู้ จัดการ 25 ตุลาคม 2549 15:03 น.



หม่อมอุ๋ยหรือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ความ จริงเป็น ตัวเลือกหนึ่งของผู้ ที่จะได้ รับแต่งตั้งเป็น นายกรัฐมนตรีครั้งที่แล้ว แต่บุญยังไม่ มาวาสนายังไม่ถึงจึง พลาดไปก้าวหนึ่ง

ถึง กระนั้นความ ฝันสูงเทียมฟ้าของราชนิกูลคนนี้ก็ยัง คงคุกรุ่นอยู่ใน ใจ

ถึง แม้จะไม่ได้เป็น นายกรัฐมนตรี แต่ตำแหน่งหน้าที่ก็สูงยิ่งนัก จะเป็น รองก็แต่นายกรัฐมนตรีคนเดียวเท่านั้น

แต่เมื่อดูถึง บทบาทและ เงาร่างของคนผู้ นี้ที่เคลื่อนกายเยื้องย่างใน ห้วงเวลาที่ผ่านมาแล้ว ก็เห็นได้ ว่ามีบทบาทไม่ได้ น้อยหน้าไปกว่าพลเอกวินัย ภัททิยกุล เลขาธิการคณะมนตรีความ มั่นคงแห่งชาติแม้แต่น้อย

พวกพ้องของหม่อมอุ๋ยใน วงราชการยัง คงอยู่ใน อำนาจหน้าที่โดยไม่ มีใครโยกคลอนเปลี่ยนแปลง

พวกพ้องของหม่อมอุ๋ยใน สภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่ง ส่อให้ เห็นถึง บทบาททางการเมืองและ เครือข่ายก็พอจะ เห็นได้ ว่ามีอยู่เป็น จำนวนมาก

เราได้ เห็นโยงใยอย่างชัดเจนระหว่างเครือข่ายของพลเอกวินัย ภัททิยกุล และ เครือข่ายของหม่อมอุ๋ยทั้งใน วงราชการ ใน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และใน รัฐวิสาหกิจ

เราได้ เห็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มธุรกิจที่เป็น ฐานกำลังทางธุรกิจของหม่อมอุ๋ยมาแต่เดิม ซึ่ง คักคักมีชีวิตชีวาเป็น พิเศษ ด้วยความ มั่นใจว่าหลังเลือกตั้งครั้งหน้าหม่อมอุ๋ยอาจจะ ไปถึง ที่หมายปลายทางคือนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ของประเทศไทย

เราก็ได้ แต่แสดงมุทิตาจิตไว้ ล่วงหน้า

และได้ แต่ภาวนาให้ หม่อมอุ๋ยโลดแล่นไปใน เวทีการเมืองอย่างราบรื่น เรียบร้อย ตลอดระยะเวลาปีเศษ ๆ ข้างหน้านี้ ขออย่าได้ สะดุดแข้งสะดุดขาใคร และ ขออย่าได้ สะดุดขาตัวเองล้มลงเสียก่อน
เต่าแม้เชื่องช้ายัง คลานไปถึง ที่หมายได้ สำมะหาอะไรกับ คนที่ว่องไวปราดเปรียวและ พลิกแพลงอย่างหม่อมอุ๋ยจะ ไปถึง ที่หมายไม่ได้ เล่า!

เพราะ เหตุนี้การเคลื่อนไหวของหม่อมอุ๋ยจึง น่าสนใจ น่าจับตามองด้วยความ ปรารถนาดี ดังนั้น หากมีสิ่งใด พอที่จะ แนะนำตักเตือนกันได้หรือ บอกกล่าวกันได้ ก็ย่อมเป็น เรื่องจำเป็น ที่คนไทยจะต้อง ทำ

หากเห็นคำเตือนเป็น แก้ววิเศษตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ก็ขอขอบคุณ แต่หากเห็นคำเตือนเป็น สิ่งที่ขยะแขยงแบบเดียวกับ นายทักษิณแล้ว ก็ช่วยไม่ได้

เพราะ สำหรับผู้ เตือนย่อมไม่ อาจหวังที่จะเป็น ดังแก้ววิเศษหรือเป็น สิ่งขยะแขยง ขอเพียงให้ คำเตือนนั้นเป็น ไปเพื่อประโยชน์และความ สุขของมหาชนก็เป็น อันใช้ได้แล้ว

เพราะ เหตุนี้เราจึง จำเป็น ที่จะต้อง เตือนและให้ จับตามองการขับเคลื่อนของหม่อมอุ๋ยสักครั้งหนึ่ง เอากัน แค่เบาะ ๆ สัก 2-3 เรื่อง

เรื่องแรก คือเรื่องการจัดเก็บภาษีจาก การขายหุ้นกลุ่มชิน ซึ่ง เจ้าหน้าที่ใน กรมสรรพากรและ อีกหลายคนได้ ร่วมสมคบกันช่วย หลีกเลี่ยงภาษี

มีการทำความ ผิดตามกฎหมายอย่างชัดเจน เพราะ กรณีเช่นเดียวกัน นี้คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีซึ่ง มีอำนาจวินิจฉัยให้ ผูกพันกรมสรรพากรและ เจ้าหน้าที่สรรพากรทุกคนเคยวินิจฉัยไว้แล้ว ว่า การได้ มาซึ่ง หุ้นนั้นจะต้อง คำนวณเงินได้ พึงประเมิน ณ วันเวลาที่ได้ มา

เป็น คำวินิจฉัยที่ผูกพันตามกฎหมายและ มีผลบังคับให้ต้อง ปฏิบัติ จะ แก้ไขได้ ก็แต่โดย ออกกฎหมายใหม่ หรือให้ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีวินิจฉัยใหม่

แต่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรกลุ่มนั้นช่วย โกงภาษีดื้อๆ โดยไม่ เคยแก้ไขกฎหมายและโดยไม่ เคยเสนอให้ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีเปลี่ยนคำวินิจฉัยใหม่
ช่วย โกงกัน ดื้อๆ โดย วินิจฉัยเอาเองว่าไม่ต้อง เสียภาษี

คนพวกนี้ควรจะต้อง ถูกโยกย้ายออกไปจาก หน้าที่ แต่หม่อมอุ๋ยกลับไม่ ทำ และ สนับสนุนให้อยู่ใน ตำแหน่งหน้าที่ต่อไป พร้อมกับช่วย แก้ตัวให้ด้วย ว่าไม่ใช่ผู้ ที่เกี่ยวข้องใน การโกงภาษีรายนี้ และยัง พูดกันไว้ด้วย ว่าคงจัดเก็บภาษีได้ ยาก

เรายืนยันว่ามีการทำผิดกฎหมายและ กรมสรรพากรมีอำนาจเรียกเก็บภาษีได้ การแก้ตัวของหม่อมอุ๋ยใน ครั้งนี้มีความไม่ ปกติอย่างยิ่ง ซึ่ง จำเป็น ที่ทุกคนจะต้อง เพ่งจับตามองให้ ดี

ว่านี่คือปรากฏการณ์ซูเอี๋ยเพื่อทำให้ไม่สามารถ จัดเก็บภาษีได้หรือไม่

เราเตือนว่าเรื่องนี้ไม่ จบง่ายๆ หรอก! หากช่วย โกงกัน ต่อไปเรื่องนี้คงจะ หลอกหลอนใครต่อใครไปจนหมดอายุความ นั่นแหละ

เรื่องที่สอง คือเรื่องศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ที่ให้ บริษัทใน สังกัดกรมธนารักษ์ไประดมทุนจาก ทุนการเมืองมาใช้ใน การก่อสร้าง ซึ่ง เราเคยเปิดเผยมาครั้งหนึ่งแล้ว ว่ามีเรื่องโกงมหาโกงอยู่ใน โครงการนี้

ก็ขอบอกให้ รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ ทราบอีกสักครั้งหนึ่งว่าโครงการนี้ลงทุนด้วย เงินเพียงประมาณ 13,000 ล้านบาท แทนที่กรมธนารักษ์จะ ลงทุนเองกลับไปให้ บริษัทลงทุน โดย ระดมทุนจาก กลุ่มการเมืองต่างๆ จากนั้น ก็ให้ส่วน ราชการทำสัญญาเช่าผูกพันถึง 30 ปี คิดเป็น ค่าเช่าถึง 86,000 ล้านบาท

ทุกส่วน ราชการต้อง ถูกผูกพันด้วย ค่าเช่าราคาแพง คือทั้ง ค่าเช่า ค่าสารพัด ตกตารางเมตรละ 460 บาท แพงยิ่งกว่าค่าเช่าสำนักงานบนถนนสีลมและ ผูกพันนานถึง 30 ปี

เมื่อดำเนินการโดย บริษัท จะ โกงกัน อย่างไรก็ทำได้ ตามใจชอบ แต่ทางราชการจะต้อง ผูกพันจ่ายค่าเช่าถึง 86,000 ล้านบาท เกินกว่าเงินลงทุนถึง 73,000 ล้านบาท

โครงการดีๆ อย่างนี้ทำไมกรมธนารักษ์จึงไม่ ทำเสียเอง? ดังนั้น เพื่อประหยัดเงินแผ่นดิน เราจึง เรียกร้องให้ รัฐบาลโดย เฉพาะหม่อมอุ๋ยรีบจัดการเรื่องนี้ใน ทันที

เราจะ ติดตามผลประโยชน์ของประเทศชาติ 73,000 ล้านบาท ไม่ให้ ถูกฉ้อฉลโดย วิธีการแบบนี้ต่อไป

เรื่องที่สาม คือเรื่องบุคลากรที่เป็น ลิ่วล้อทรราชใน สังกัดและ เครือข่ายของกระทรวงการคลัง

เราได้ พบว่าการแต่งตั้งโยกย้ายคราวนี้ไม่ ระแคะระคายคนพวกนี้เลย ที่ถูกโยกย้ายมีแต่พวกข้าราชการซึ่งไม่ รู้อีโหน่อีเหน่แต่ประการใด

ใครไม่ รู้ก็ดูเหมือนว่ามีการสะสางเครือข่ายอำนาจเก่าใน กระทรวงการคลังแล้ว อะพิโธ่อะพิถัง มันแค่กระบวนการแหกตาเท่านั้น !

อย่าคิดว่าคนอื่นเขาไม่ รู้ทัน หากยัง หวังอนาคตที่สดใส ก็ควรกลับใจกลับตัวให้ ทันท่วงที อย่าถลำลึกไปมากกว่านี้เลย!

หมายเหตุผู้จัดการ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก