เพื่อชีวิต..ใคร???

วันพุธ, ธันวาคม 14, 2548

"คนหน้ามืด"นำทางไทย

"คนหน้ามืด"นำทางไทย

ค ำว่า "พัฒนาประเทศ" กับคำว่า "ขายประเทศ" มันคนละความหมายกัน แต่ด้วยระบบทักษิโณมิกส์ หรือ Dual-Tract Policy มันกำลังทำให้เป็น "เรื่องเดียวกัน" เช่นวันนี้ นายกฯ ทักษิณเชิญทูตานุทูตทั่วโลกมารับฟังแนวทางว่า "เงินนอก" จะซื้อประเทศไทยได้แบบไหน อย่างไร?

ครับ..ขึ้นปีที่ 5 ของนายกฯ ทักษิณ "เจตนาซ่อนเร้น" ของท่าน ดูจะถูกการกระทำของท่าน "เปิดเผยออกมาเอง" มากขึ้นเรื่อยๆ

โ ครงการประชานิยมร่วม 20 โครงการ ภายใต้วงเงินนับไม่ถ้วนว่ามันกี่ล้านล้านบาทเข้าไปแล้ว ส่วนใหญ่พอฟันหัวพุง-หัวมันแต่ละโครงการกันไปแล้ว ก็ทิ้งศพเป็นภาระบนคำว่า "หนี้สาธารณะ" เกลื่อนกลาด!

แต่ครั้งนี้ แนวคิดจะอาเงิน-เอาสมองต่างชาติมาผูกขาดประเทศไทย ในรูปแบบสัมปทานผ่านเมกะโปรเจ็กต์ทั้งหลายนั้น ผมเห็นประกายตาและรอยเยิ้มที่มุมปากแล้ว

อดสู และทนไม่ได้ครับ!

ต้องพูด เป็นไรก็ต้องเป็น เพราะขืนปล่อยไป ไม่ขัดขา-ขวางคอไว้บ้าง อนาคตประเทศไทยไม่พ้น "อาณานิคมรูปแบบใหม่" ของนานาชาติ

ท่านเคยได้ยินคำว่า "ขี้ตะกรัน" ไหมครับ?

และท่านเคยรู้จักโลหะชนิดหนึ่งที่ชื่อ "แทนทาลัม" ไหมครับ?

ค ิดว่าทุกท่านต้องเคยรู้จักและเคยได้ยิน โดยเฉพาะพี่น้องทางใต้ที่ภูเก็ต ด้วยความไม่รู้และรู้ไม่ถึงคุณค่า ชาวบ้านจึงขาย "ขี้ตะกรัน" ถมถนนกันรถบรรทุกละพัน-ครึ่งพันบาท

แต่ฝรั่งต่างชาติมันรู้ มันรู้ว่า "ขี้ตะกรัน" นั้น ถ้าเอามาถลุงด้วยเทคโนโลยีทันสมัยก็จะได้ "แร่แทนทาลัม" ซื้อขายกันกิโลกรัมละเป็นสิบ-เป็นร้อยล้านบาท!

นั่นคือ "บทเรียน" สดๆ ร้อนๆ จากของจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ผมคิดว่าทุกคนยังจำกันได้

ก ็มาดูบนความเป็น "ประเทศไทย" ของเราบ้าง ศักยภาพแห่งความเป็นประเทศไทย ทั้งด้านภูมิศาสตร์ ด้านชัยภูมิอันเป็นที่ตั้ง ด้านประวัติศาสตร์ ด้านความหลากหลายทางทรัพยากร ด้านศิลปวัฒนธรรมทรงเอกลักษณ์

ต่างๆ นานาเหล่านี้ เอาเฉพาะแค่คำว่า "ในน้ำมีปลา-ในนามีข้าว"

ประเทศไทยก็คือ "แทนทาลัม" ดีๆ นี่เอง

แ ต่วันนี้-ขณะนี้ นายกฯ ทักษิณท่านเห็นคุณค่าประเทศไทยไม่ต่างกับ "ขี้ตะกรัน" และกำลังเทกระบะขายให้ทุนต่างชาติ เพื่อแลกกับ "เงินก้อนหนึ่ง" เฉพาะหน้า!

จะหาค่า "ปะถังแตก" รึไงก็ไม่ทราบ?

แ นวคิดที่จะให้ "เงินนอก-สมองนอก" มาพัฒนาประเทศนั้น เท่าที่ผมฟังคุณวิษณุ เครืองาม บ้าง นายพรหมินทร์ นามสกุลอะไรก็จำไม่ได้-ขอโทษ ที่เป็นเลขาฯ นายกฯ ออกมาพูดบ้าง

สรุปความได้ว่า ไม่ใช่แค่ให้ต่างชาติมาเสนอทำโครงการรถไฟ้า 10 สายเท่านั้น แต่จะให้ "ทุนนอก-สมองนอก" มารับสัมปทานไปทำทั้งในด้านการศึกษา การคมนาคม การเกษตร การเทคโนโลยี และ ฯลฯ

พูดง่ายๆ ก็คือ "จัดสรรประเทศไทย" ใครมีเงิน-มีความคิดอยากทำอะไร แบบไหน ก็เสนอมา ถูกใจกัน ผลประโยชน์ลงตัวกัน

ก็เอาส่วนนั้นของประเทศไทยไปบริหารหาผลประโยชน์ได้เลย!

ผ มไม่เข้าใจว่าคนระดับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บอกกับสังคมว่า "ผมรวยแล้วไม่โกง ยอมสละความสุข และประโยชน์ส่วนตน เข้ามาเพื่ออาสารับใช้บ้านเมือง" นั้น

คิดอย่างนี้ได้ยังไง ถ้ารับใช้ด้วยความคิดแบบนี้ กลับไปทำมาหากินให้รวยตามแบบเดิมๆ ของท่านเถอะ!

ผ มไม่ปฏิเสธการพัฒนาประเทศ แต่การทำอะไรทุกอย่างต้อง "รู้เขา-รู้เรา" ขั้นแรก ต้องรู้จักและเข้าใจตัวเองคือ "ความเป็นประเทศไทย" ให้รอบด้าน และทะลุปรุโปร่ง

ต้องรู้ "ต้นทุน" ของความเป็นประเทศ

แล้วพัฒนาให้สอดคล้องกับต้นทุนนั้น

คำตอบของการพัฒนาประเทศ..ไม่ใช่เงิน

แค่คำตอบอยู่ที่ ความอยู่ดี-กินดี-มีสุข ด้วยทรงเอกลักษณ์-เอกราชของความเป็นไทย

ผ ู้นำชาติที่ดี ต้องบอกกับประชาชนได้ว่า "จุดแข็ง-จุดอ่อน" ของความเป็นประเทศของเรา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม อันหมายถึง "ด้านวัตถุอันสอดคล้องกับจิตใจ" อยู่ตรงไหน?

แล้วเราจะพัฒนาประเทศของเราไปให้อยู่ในรูปแบบ-ลักษณะไหน?

เป้าหมายสุดท้ายที่ประเทศไทย-คนไทย จะต้องไปให้ถึงด้วยกัน จากฐานอันแข็งแกร่งบนความเป็นชาตินั้น คืออะไร อยู่ตรงไหน?

ท ักษิณต้องตอบตรงนี้ให้ชัดเจนก่อน ไม่ใช่เอาประเทศเป็น "ของเล่นทักษิณ" คิดวัน-ทำวัน เพียงเพื่อหล่อเลี้ยงคำว่า "พรรคไทยรักไทย" ให้เป็นกระdongรักษาเนื้อสัตว์การเมืองไปมื้อๆ เท่านั้น

แค่จะให้ลูกโตขึ้นไปเป็นหมอ เป็นวิศวะซักคน พ่อ-แม่ยังต้องวางแผนตั้งแต่ชั้นอนุบาลยันอุดมศึกษา ก็กว่า 10 ปี

กว่า 10 ปีนั้น ก็ได้เพียงก็เข้าสู่แผนด้วยการเอ็นทรานซ์สู่มหาวิทยาลัย ก่อนจะออกไปเป็น "ทรัพยากรบุคคลคุณภาพ" ของประเทศเท่านั้นเอง!

แต่นี่..ประเทศไทยทั้งประเทศ จู่ๆ นายกฯ ทักษิณก็จะเอาแค่คำว่า "พัฒนา" คำเดียวโดดๆ เป็นพิมพ์เขียว แล้ว..ขายประเทศ?

ไ ม่มีชาวบ้านคนไหนซักคน (อาจยกเว้นกลุ่มตระกูลรอบๆ ตัวท่าน) จะรู้ได้เลยว่า สิ่งที่ทักษิณบอกว่า "เพี่อการพัฒนาประเทศ" นี้ สุดท้ายแล้วประเทศไทย-คนไทย จะได้อะไร และมีหน้าตาอย่างใด?

และจะพาอนาคตประเทศ อนาคตประชาชน ไปอยู่ในสถานภาพไหน ตรงไหน?

เพราะมันอาจเป็นไปได้ว่า ในอนาคตคนไทยเดินไป 2-3 ก้าวก็จะเจอป้ายติดไว้ตามกำแพง ตามรั้ว ตามหน้าอาคารต่างๆ เต็มไปหมดว่า

แผ่นดินสัมปทาน-ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต

หรือไม่ก็...

"คนไทยและสุนัข-ห้ามเข้า"

ท ุกวันนี้ ระบบเศรษฐกิจและการเงินของไทยตกอยู่ในมือต่างชาติ โดยเฉพาะสิงคโปร์ สถาบันการเงินใหญ่ๆ ของไทยตั้งแต่อันดับ 1 ไล่ลงไป 6-7 แห่ง มีแต่ชื่อเท่านั้นที่เป็นไทย

แต่กลไกและ "เม็ดเงิน" ที่ใช้กำหนดทิศทางเศรษฐกิจประเทศ

ของต่างชาติทั้งนั้น!

คนไทยวันนี้ นอกจาก กิน..กิน..กิน..กาม..กาม..กาม..หนี้..หนี้..หนี้..ซื้อ..ซื้อ..ซื้อ..โกง..โกง..โกง..มอม..มอม..มอม..เมา..เมา..เมา

โง่ งมงาย และหยิ่งลมๆ แล้งๆ กันแล้ว

มีอะไรที่รัฐบาลทักษิณ "พัฒนา" ไว้เป็นรากฐานสอดคล้องกับ "ต้นทุนไทย" เพื่อความเติบโตที่แข็งแกร่งอันมีเอกลักษณ์บ้าง?

ทักษิณ-ท่านกำลังจะพาประเทศไทย-คนไทย ไปทางไหน?

ดูมันร้อนรุ่ม ทุรนทุราย กระเซือกกระสนไปบนคำว่า เงิน..เงิน..เงิน..และเงิน จนงกเงิ่น น่าทุเรศทุรัง!?

รถไฟฟ้า 10 สายตามนโยบายลวกๆ ของท่าน

มันจะเป็น "10 สายด่วนนรก" สำหรับคนไทย พวกท่าน-คณะพรรคไทยรักไทย นั้นไม่น่าห่วงหรอก เพราะอยู่อีกไม่กี่วันก็ไปกันแล้ว

แต่คนไทย-ประเทศไทย มันไปไหนไม่ได้ ต้องอยู่รับเวร-รับกรรม ล้างขี้ที่พวกท่าน "กินแล้วถ่าย" กันเอาไว้เลอะเทอะ

ตรงนี้แหละทำให้ผมกลุ้ม และต้องออกมาขวางตีนคน!

ในขณะที่ใครไม่รู้โม้ว่า "เสกกระดาษให้เป็นเงินได้" ในขณะที่โม้ว่าอีก 4-5 ปีคนไทยจะหายจนทั้งประเทศ

แ ต่การณ์ตรงกันข้าม เขานินทากันไปครึ่งค่อนโลกว่า "ประเทศไทยถังแตก" และข่าวฉาวไปทั้งเมืองว่า คนไทยกำลังเป็นทาสเงินด่วน คนไทยกลายเป็น "มนุษย์หนี้" หนักขึ้น

ประเทศไทยยิ่งใหญ่ในภูมิภาคนี้ด้วย..คอรัปชั่นอันดับ 7!

แ ต่วานนี้มีการเปิดเผย "แชมป์เศรษฐีหุ้นไทย" ปรากฏว่าเครือข่าย "ตระกูลชินวัตร" มีมูลค่าหุ้นในธุรกิจรวมกันแล้วเป็นอันดับ 1 ของประเทศ คือ 33,199.78 ล้านบาท!

ผมไม่อิจฉาความรวยใคร แต่ทุเรศ "คนไทย" เพราะในขณะที่กลุ่มตระกูลรวยผูกขาดเพิ่มขึ้นรายปี

แต่ร้อยละ 80 ที่คนไทยกลายเป็น "มนุษย์หนี้" หนักขึ้น

แล้วยังเชื่อด้วยงมงายกันอยู่อีกหรือว่า จะมีเทวดาหน้าสี่เหลี่ยมมาดลบันดาลให้คนไทย "หายจน" กันได้ทั้งประเทศ?

ผ มไม่เคยเห็นผู้นำที่ไหนจะพัฒนาประเทศเปะปะแบบนี้ ขนาดจอมพลสฤษดิ์ ซึ่งถือว่าอยู่ในยุคโบราณ แต่ท่านยังมี "พิมพ์เขียว" เป็นธงพัฒนาประเทศ แต่นี่..ยุคเทคโนฯ กลับโลซก ทำกันล่กๆ แล้วยกคำว่าพัฒนามาบังหน้าขายประเทศ โลกยุคบริโภคนิยมกำลังถึง "สถานีสุดท้าย" แล้ว แต่กลับมีคนนึกว่าเพิ่งออกจากชานชาลาหัวลำโพง แล้วเราจะปล่อยให้ "คนหน้ามืด" นำทางประเทศไทย และยอมไปกับเขา..งั้นหรือ?
รักชาติ

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9480000170981

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก