เพื่อชีวิต..ใคร???

วันจันทร์, พฤษภาคม 30, 2548

ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 9 ป.ป.ช.คนละ 2 ปีแต่ให้รอลงอาญา 2 ปี

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2548 15:59 น.
ศ าลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา 9 ป.ป.ช. มีความผิด ลงโทษจำคุก 2 ปี แต่จากตำแหน่งหน้าที่ โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี

พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ - นายชิดชัย พานิชพัฒน์ - นายเชาว์ อรรถมานะ
วันนี้ (26 พ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่นายคัมภีร์ แก้วเจริญ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ ประธาน ป.ป.ช. นายชิดชัย พานิชพัฒน์ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ นายวิเชียร วิริยะประสิทธิ์ นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น นายยงยุทธ กปิลกาญจน์ นายประดิษฐ์ ทรงฤกษ์ นายเชาว์ อรรถมานะ และนายพินิต อารยะศิริ กรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะรวม 9 คน เป็นจำเลยที่ 1-9 ฐานกระทำผิดทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีขึ้นค่าตอบแทนให้ตนเอง

โดยคดีนี้หลังศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย เห็นว่า จำเลยทั้ง 9 คนได้กระทำความผิดตามฟ้อง และแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองโดยอำเภอใจ ถึงแม้ภายหลังจำเลยจะนำเงินที่ได้มาส่งกลับคืนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความผิดที่สำ เร็จแล้วสูญหายไป ดังนั้นศาลจึงมีมติ 6 ต่อ 3 พิพากษาให้จำคุกจำเลยคนละ 2 ปี แต่เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งหน้าที่ของจำเลยทั้ง 9 แล้ว โทษจำคุกศาลให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี

นายประดิษฐ์ ทรงฤกษ์ - นายพินิต อารยะศิริ - นายยงยุทธ กปิลกาญจน์
สำหรับคดีนี้ ฝ่ายโจทก์มีพยานบุคคลขึ้นเบิกความรวม 3 ปาก ประกอบด้วย พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานกรรมาธิการตรวจสอบและศึกษาการทุจริตของวุฒิสภา นายศราวุธ เมนะเศวต เลขาธิการ ป.ป.ช. ซึ่งถือเป็นพยานร่วมของฝ่ายจำเลยด้วย และนายโอภาส อรุณินทร์ อดีตประธาน ป.ป.ช.

โดยฝ่ายจำเลยมีกรรมการ ป.ป.ช.เบิกความรวม 3 ปาก คือ นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น จำเลยที่ 5 และนายวิเชียร วิริยะประสิทธิ์ จำเลยที่ 4 นายเชาวน์ อรรถมานะ จำเลยที่ 8 และพล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ ประธาน ป.ป.ช. โดยฝ่ายจำเลยยังยื่นคำให้การพยานบุคคลเป็นหนังสืออีก 4 ปาก ประกอบด้วย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร. และอดีตเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า นายเกื้อ ไกรบุญเลิศ สำนักงานประมาณ และนายสุทธินันท์ สาริมาน เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. 7

นายวิเชียร วิริยะประสิทธิ์ - พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ - นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น
ทั้งนี้ศาลได้พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ประกอบด้วย บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ พ.ร.บ.เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และผลประโยชน์ตอบแทนอื่นให้กับองค์กรตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2541 แล้ว เห็นว่า ป.ป.ช.ทั้ง 9 ไม่มีอำนาจในการออกระเบียบ ซึ่งที่ ป.ป.ช.อ้างอาศัยอำนาจมาตรา 5 และ 107 ของพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. ศาลเห็นว่า มาตราดังกล่าว เป็นการกำหนดอำนาจให้ออกระเบียบ เพื่อบริหารสำนักงานบุคลากรและงบประมาณ ไม่ใช่อำนาจเพื่อการออกระเบียบจ่ายค่าตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช.ดังกล่าว เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช.ตามรัฐธรรมนูญ และ พระราชบัญญัติ ป.ป.ช. ได้มี พ.ร.บ.เงินเดือนฯ ได้กำหนดอัตราไว้ให้ชัดเจนอยู่แล้ว

ศาลเห็นว่า หาก ป.ป.ช.เห็นว่าเงินเดือนประจำตำแหน่งไม่เหมาะสมตามภาระหน้าที่ ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญในการไต่สวนคดี ก็สามารถที่จะใช้อำนาจเพื่อเสนอเรื่องให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดใน พ.ร.บ.เงินเดือน โดยผ่านการพิจารณาของ ครม. และสภา เพื่อออกมาเป็นกฎหมายได้ แต่มิใช่การใช้อ้างอำนาจออกระเบียบบริหารสำนักงานมาใช้ได้
นอกจากนี้ข้อเท็จจริงยังรับฟังได้ว่า ในการพิจารณากลั่นกรองเพื่อออกร่างระเบียบ ป.ป.ช.ทั้ง 9 เป็นผู้เริ่มต้น และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 2 คณะ เพื่อศึกษาข้อกฎหมายและรายละเอียดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ซึ่งในชั้นพิจารณา 2 อนุกรรมการได้ความว่า มีการบันทึกข้อสังเกตไว้แล้วว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจออกระเบียบในคดีนี้ ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่า ป.ป.ช.ทั้ง 9 ได้ล่วงรู้ตั้งแต่แรกว่าไม่มีอำนาจ แต่ยังร่วมประชุมกันเพื่อลงนามออกระเบียบในวันที่ 29 ก.ค.2547 โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่มีคนใดคัดค้าน จึงเห็นว่า ป.ป.ช.ทั้ง 9 มีความผิดจริงตามฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลฎีกาฯ อ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ป.ป.ช.ทั้งคณะได้เดินทางกลับทันที โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด และพยายามหลบสื่อมวลชนโดยนั่งอยู่ในห้องพิจารณาคดี ก่อนที่จะทยอยแยกย้ายกลับ โดยนายวิเชียร วิริยะประสิทธิ์ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวเพียงสั้นๆว่า ตนยอมรับในคำพิพากษาของศาล แต่เชื่อว่ากรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่พ้นจากตำแหน่งเพราะไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติ ส่วนจะลาออกหรือไม่ ต้องหารือร่วมกับกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะอีกครั้ง

ด้านนายสุภัทร์ สุทธิมนัส เลขานุการศาลฎีกา ฯ กล่าว ภายหลังศาลมีคำพิพากษา ว่าการที่ศาลรอการลงโทษจำเลยจะถือว่าต้องพ้นออกจากตำแหน่งทันทีหรือไม่นั้น ศาลไม่อาจจะก้าวล่วงได้ จะต้องไปตีความกฎหมาย ป.ป.ช. กันเอง ทั้งนี้รัฐธรรมนูญ ม.300 บัญญัติให้ คณะกรรมการป.ป.ช. ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีเมื่อศาลสั่งรับฟ้อง และจะกลับมาทำหน้าที่ได้เมื่อศาลจะมีคำพิพากษายกคำร้อง แต่ในคดีนี้ศาลไม่ได้มีคำสั่งยกคำร้องแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการพิจารณาคดี ได้มีบรรดาสื่อมวลชนทุกแขนง และประชาชน ข้าราชการสำนักงานป.ป.ช. เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาเป็นจำนวนมากจนแน่นห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ศาลต้องเชิญบุคคลที่ต้องการฟังคำพิพากษาออกนอกห้อง และทำการถ่ายทอดเสียงไปยังห้องโถงหน้าห้องพิจารณาคดี

ด้านนายกล้านรงค์ จันทิก อดีตเลขา ป.ป.ช. กล่าวว่า เมื่อศาลมีคำพิพากษาเช่นนี้ถือว่ากรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คนต้องพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ ตามมาตรา 300 วรรค 3 ที่ระบุว่า ป.ป.ช. จะกลับมาทำหน้าที่ได้ ก็ต่อเมื่อศาลฎีกาฯยกคำร้อง แต่กรณีนี้ศาลฎีกาฯ พิพากษาว่าผิด จึงกลับมาปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้

เส้นทางคดี ป.ป.ช.ก่อนเข้าสู่วินาทีตัดสินชะตากรรม...
ลุ้นระทึกพิพากษาคดี ป.ป.ช.วันนี้
นัดพิพากษาคดี ป.ป.ช.26 พ.ค.นี้
ป.ป.ช.อ้างสุจริต ขึ้นเงินพิเศษไม่ผิด กม.
"ประสิทธิ์"เบิกความคดี ป.ป.ช.ชี้ขึ้นเงินพิเศษไม่ผิด รธน.
"ประทิน" เบิกความยัน ป.ป.ช.ขึ้นค่าตอบแทนขัด รธน.
ศาลฎีกาฯนัดพร้อม คดี ป.ป.ช.ทุจริตพรุ่งนี้
9 ป.ป.ช.ปฎิเสธคดีขึ้นค่าตอบแทน
ศาลฎีกาฯเปิดคดี ป.ป.ช.ทุจริต เช้าวันนี้
ป.ป.ช.ปฏิเสธข้อหาขอสู้คดีศาลฎีกาฯ นัดแถลงวาจา 4 เม.ย.นี้
ศาลฎีกาฯเปิดแถลงคดี ป.ป.ช.ทุจริตนัดแรกพรุ่งนี้
ศาลฎีกาฯรับฟ้องป.ป.ช. นัดจำเลยพิจารณาคดี 14 มี.ค.นี้
ฟ้องป.ป.ช.เป็นจำเลยศาลวันนี้
อสส.สั่งฟ้อง ป.ป.ช.ต่อศาลฎีกาฯพรุ่งนี้
อสส.ฟ้องคดี ป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือนตัวเอง 24 ก.พ.นี้
อัยการพร้อมยื่นฟ้อง ป.ป.ช.ต่อศาลฎีกา 25 ก.พ.นี้
อัยการมั่นใจยื่นฟ้องป.ป.ช.ต่อศาลฎีกาฯ ทันภายใน 30 วัน
ศาลฎีกาฯ คาดชี้ขาดคดีป.ป.ช. ภายใน 3 เดือน
สำนวนคดี ป.ป.ช.ถึงมืออัยการแล้ว
อัยการเตรียมพร้อมฟ้องคดี ป.ป.ช.
ศาลฎีกาฯชี้ ป.ป.ช.ลาออก ไม่มีผลทางคดีเพราะความผิดสำเร็จแล้ว
พงศ์เทพหวั่น"คดีขาดอายุความ"หลัง ป.ป.ช.ถูกชี้มูล
ศาลฎีกาฯ นัดชี้ขาด คดี ป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือน
ศาลฎีกาใช้เสียงข้างมากชี้ขาดคดี ป.ป.ช.24 ม.ค.นี้
องค์คณะผู้พิพากษานัดชี้ คดี ป.ป.ช. 17 ม.ค.นี้
คกก.ไต่สวนศาลฎีกาฯชี้คดี ป.ป.ช.ไม่มีมูล
กก.ไต่สวนฯกรณีป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือนนัดชี้ชะตาวันนี้
นัดชี้มูล คดี ป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือนตัวเอง 6 ม.ค.ปีหน้า
นัดสรุปคดี ป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือนตัวเอง 28 ธ.ค.นี้
นัดไต่สวน คดีเงินเดือน ป.ป.ช.ปากสุดท้ายวันนี้
กรรมการ ป.ป.ช. เข้าให้ถ้อยคำคดีถูกกล่าวหาขึ้นเงินเดือนตัวเองบ่ายนี้
ประธาน ป.ป.ช.ให้ถ้อยคำคดีขึ้นเงินเดือน
ป.ป.ช.อ้างปธ.ศาลรธน.พยานขึ้นค่าตอบแทน
ก.ไต่สวน ศาลฏีกายังไม่ชี้ คดี ป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือนตัวเอง
ประชุมชี้มูลเบื้องต้น คดี ป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือนพรุ่งนี้
"โอภาส"ให้ถ้อยคำคดี ป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือน
กก.ไต่สวนเรียกสอบเลขาฯป.ป.ช.เพิ่มกรณีขึ้นเงินเดือนตัวเอง
ก.ไต่สวน คดี ป.ป.ช.ขึ้นเงินพิเศษ เรียก อ.บัญชีกลาง ตัวแทนสำนักงบให้ถ้อยคำ
เลขาฯป.ป.ช.แจง คกก.ไต่สวนกรณีขึ้นเงินเดือนตัวเอง
เลขาฯป.ป.ช. ให้ถ้อยคำกรณีถูกกล่าวหาขึ้นเงินเดือน
ประทินแจงคกก.ไต่สวน คดีป.ป.ช.ขึ้นเงินตัวเอง
คณะกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.ประชุมนัดแรก เตรียมเรียก"ประทิน"ให้การ 18 พ.ย.นี้
กก.ไต่สวนกรณี"ป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือน"ประชุมนัดแรกพรุ่งนี้
ศาลฎีกาฯเดินหน้าคดี ป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือน
ศาลฎีกาตั้ง 7 คกก.ไต่สวนป.ป.ช.
เลขาศาลฎีกา ชี้ ตั้งกรรมการ ไต่สวน ป.ป.ช.พรุ่งนี้ อาจได้มากกว่า 5 คน
6 หน่วยงานหารือด่วน"แก้ปัญหากรณี ป.ป.ช.หยุดปฏิบัติหน้าที่"
ศาลฎีกาฯคดีอาญานักเมือง เรียกประชุมศุกร์นี้ เลือกคณะกรรมการไต่สวน ป.ป.ช.ขึ้นเงินเดือนตัวเอง
โฆษกอัยการ ชี้ขั้นตอนคกก.ไต่สวนมูลผิดป.ป.ช.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก